วิธีใช้ Google Trend เพื่อหาอินไซด์ทำ Content ให้โดนใจลูกค้า
Google Trend เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการวิเคราะห์เทรนด์และความนิยมของคำค้นหา ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Google Search Trend ช่วยให้คุณเข้าใจผู้ใช้ของคุณมากขึ้น หาไอเดียใหม่ ๆ พัฒนาธุรกิจของคุณ และติดตามกระแสสังคม วันนี้ Funnel จึงจะมาสอนวิธีใช้ Google Trend พร้อมแชร์เทคนิคใช้ Google Trend หาอินไซด์ทำ Content
Google Trends คืออะไร ช่วยธุรกิจได้ยังไงบ้าง
Google Trends คือเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสำรวจความนิยมของคำค้นหาในช่วงเวลาที่กำหนด โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปริมาณการค้นหาและความสนใจสำหรับหัวข้อ คำสำคัญ และคำค้นหาต่าง ๆ ในภูมิภาคและภาษาต่าง ๆ Google Trends ทำงานโดยรวบรวมข้อมูลการค้นหาจาก Google Search Engine วิเคราะห์ความนิยมของคำค้นหา แสดงผลลัพธ์ในรูปแบบกราฟ เส้น และแผนภูมินักการตลาดใช้เครื่องมือนี้เพื่อ
อัปเดต! คีย์เวิร์ด ค้นหามากที่สุด เพื่อนำไปใช้ในการทำ SEO และ Search Engine Marketing (SEM)
Google Trends ช่วยธุรกิจได้อย่างไร
Google Trends มีประโยชน์ต่อธุรกิจมากมาย ดังนี้
1. หาไอเดียสินค้าและบริการ
- วิเคราะห์เทรนด์สินค้าและบริการว่าอะไรกำลังมาแรง
- ค้นหาสินค้าที่มีศักยภาพในการขาย
- พัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
2. วางแผนกลยุทธ์การตลาด
- วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค
- หาช่องทางการตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
- วางแผนกลยุทธ์การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ
3. พัฒนาเนื้อหา
- ค้นหาหัวข้อเนื้อหาที่ผู้บริโภคสนใจ
- เขียนเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
- เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย
4. วิเคราะห์คู่แข่ง
- เปรียบเทียบความนิยมของแบรนด์กับคู่แข่ง
- หาจุดแข็งและจุดอ่อนของแบรนด์
- พัฒนากลยุทธ์การแข่งขันที่มีประสิทธิภาพ
5. ติดตามผลแคมเปญ
- วิเคราะห์ผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาด
- วัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญ
- พัฒนาแคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทำไมต้องใช้ Google Trends?
การใช้ Google Trends จะช่วยในการทำ SEO ดังนี้
1. วิเคราะห์เทรนด์
Google Trends แสดงให้เห็นว่าคีย์เวิร์ดใดได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน ช่วยให้คุณติดตามเทรนด์ล่าสุดและคาดการณ์ความสนใจของผู้คนในอนาคต เช่น google trend สินค้าขายดี 2024 คําค้นหาใน google มากที่สุด
2. หาไอเดียคอนเทนต์
Google Trends แสดงหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด ค้นหามากที่สุด ช่วยให้คุณหาไอเดียคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่ตรงกับความสนใจของผู้คน
3. วางกลยุทธ์ SEO
Google Trends ช่วยให้คุณเลือกคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพสำหรับ SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีขึ้นบน Google
4. ศึกษาคู่แข่ง
Google Trends ช่วยให้คุณติดตามคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งของคุณใช้ ช่วยให้คุณเข้าใจกลยุทธ์ของพวกเขาและหาจุดแข็งของคุณ
5. ตัดสินใจทางธุรกิจ
Google Trends ช่วยให้คุณตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้น เช่น พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เลือกตลาดเป้าหมาย วางแผนกลยุทธ์การตลาด
Google Trends ทำอะไรได้บ้าง ฟีเจอร์ที่น่าสนใจจาก Google Trend
1. การค้นหาที่มาแรง (Trending Searches)
ฟีเจอร์นี้แสดงรายการคำค้นหาที่กำลังเป็นเทรนด์ในปัจจุบัน แบ่งตามช่วงเวลา ประเภท และภูมิภาค ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ติดตามกระแสความสนใจของผู้คนได้แบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับการหาไอเดียคอนเทนต์ การทำการตลาด หรือการวิเคราะห์ความนิยมของสินค้าและบริการ
2. การเปรียบเทียบ (Compare)
ช่วยให้เปรียบเทียบความนิยมของคำค้นหาสองคำหรือมากกว่าได้ คุณสามารถเปรียบเทียบได้หลายแง่มุม เช่น ช่วงเวลา ประเภท ภูมิภาค และอุปกรณ์ ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับการวิเคราะห์คู่แข่ง การหาคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพ และการติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญ
3. หัวข้อที่เกี่ยวข้อง (Related Topics)
แสดงรายการหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของคุณ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณค้นหาคำค้นหาใหม่ ๆ และขยายขอบเขตการวิเคราะห์ของคุณ
4. ข้อมูลเชิงลึก (Insights)
ฟีเจอร์นี้แสดงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคำค้นหาของคุณ เช่น ข้อมูลประชากร ความสนใจ และพฤติกรรมการค้นหา ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณเข้าใจผู้ใช้ของคุณมากขึ้น และสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจ
5. แผนที่ (Map)
แสดงความนิยมของคำค้นหาของคุณบนแผนที่โลก ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณวิเคราะห์ความนิยมของคำค้นหาตามภูมิภาค เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการดำเนินงานในหลายประเทศ
6. ตัวกรอง (Filters)
ช่วยให้กรองผลการค้นหาของคุณตามช่วงเวลา ประเภท ภูมิภาค อุปกรณ์ และเพศ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณเจาะจงการวิเคราะห์ของคุณมากขึ้น
7. ดาวน์โหลดข้อมูล (Download Data)
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ดาวน์โหลดข้อมูลผลการค้นหาของคุณในรูปแบบ CSV ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม
สอนวิธีใช้ Google Trends
1. เข้าหน้าเว็บ Google Trends
2. เลือกคำค้นหา ในช่องค้นหา พิมพ์คำค้นหาที่คุณต้องการวิเคราะห์ ตัวอย่างเช่น “รองเท้าวิ่ง”
3. เลือกช่วงเวลา เลือกช่วงเวลาที่ต้องการวิเคราะห์ Google Trends เสนอตัวเลือกตั้งแต่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา จนถึง 5 ปีที่ผ่านมา
4. เลือกประเภท เลือกประเภทของการค้นหา Google Trends เสนอตัวเลือก 5 ประเภท ได้แก่
- ภาพรวม: แสดงภาพรวมของความนิยมของคำค้นหา
- การค้นหา: แสดงความนิยมของคำค้นหา
- รูปภาพ: แสดงความนิยมของรูปภาพ
- ข่าว: แสดงความนิยมของข่าว
- วิดีโอ: แสดงความนิยมของวิดีโอ
5. เลือกภูมิภาค เลือกภูมิภาคที่ต้องการวิเคราะห์ Google Trends เสนอตัวเลือกตั้งแต่ระดับโลก จนถึงระดับเมือง
6. วิเคราะห์ผลลัพธ์
Google Trends แสดงผลลัพธ์ในรูปแบบกราฟ คุณสามารถดูข้อมูลต่าง ๆ ได้ เช่น
- ความนิยม: แสดงความนิยมของคำค้นหา
- ภูมิภาค: แสดงความนิยมของคำค้นหาตามภูมิภาค
- อุปกรณ์: แสดงความนิยมของคำค้นหาตามอุปกรณ์
- เพศ: แสดงความนิยมของคำค้นหาตามเพศ
7. ดาวน์โหลดข้อมูล สามารถดาวน์โหลดข้อมูลผลการค้นหาในรูปแบบ CSV
ตัวอย่างการวิเคราะห์ Trend ที่พบในกูเกิลเทรนด์
- นักการตลาด: ใช้ Google Trend เพื่อหาไอเดียคอนเทนต์ วิเคราะห์คู่แข่ง หาคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพ และติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญ
- นักเขียน: ใช้ Google Trend เพื่อหาหัวข้อที่น่าสนใจ วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย และสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจ
- นักธุรกิจ: ใช้ Google Trend เพื่อวิเคราะห์ตลาด หาโอกาสทางธุรกิจ และพัฒนาสินค้าและบริการ
- นักวิจัย: ใช้ Google Trend เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้คน วิเคราะห์ความนิยมของประเด็นต่าง ๆ และติดตามกระแสสังคม
เคล็ด (ไม่) ลับวิธีใช้ Google Trends หาอินไซด์ทำ Content ให้โดนใจลูกค้า
มาดูเคล็ดลับ (ไม่) ลับ ในการใช้ Google Trends หาอินไซด์ทำ Content ให้โดนใจลูกค้ากัน
1. ระบุหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
- เริ่มต้นด้วยการพิมพ์คำหลักหรือวลีกว้างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมของคุณ
- ใช้ตัวเลือก “หัวข้อที่เกี่ยวข้อง” ค้นหาคำค้นหาย่อยที่ผู้คนใช้
- วิเคราะห์ “คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง” ค้นหาคำค้นหาที่มักใช้ร่วมกัน
2. ไทม์แมชชีนพาย้อนมองแนวโน้มความสนใจ
- เปรียบเทียบความนิยมของหัวข้อในช่วงเวลาต่างๆ
- ค้นหา seasonal trends
- วิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อความสนใจของผู้คน
3. เปรียบเทียบสิ่งที่ผู้คนสนใจ
- เปรียบเทียบคำค้นหา คู่แข่ง หรือแบรนด์ต่างๆ
- วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน และหาโอกาสในการสร้าง Content ที่แตกต่าง
- ค้นหา niche market
4. ปักหมุดพื้นที่ทางภูมิศาสตร์
- วิเคราะห์ความสนใจในแต่ละภูมิภาค
- ปรับ Content ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่
- หาโอกาสขยายตลาด
5. เจาะลึกข้อมูลเชิงลึก
- วิเคราะห์ข้อมูลประชากร เช่น เพศ อายุ และความสนใจ
- ค้นหาคำถามยอดนิยมเกี่ยวกับหัวข้อ
- วิเคราะห์อารมณ์ความรู้สึกของผู้คน
6. ติดตามเทรนด์แบบเรียลไทม์
- ใช้ “Recently Trending” ค้นหาเทรนด์ล่าสุด
- ใช้ “Realtime Search Trend” ติดตามเทรนด์แบบเรียลไทม์
- ปรับ Content ให้ทันต่อกระแส
Google Trends เป็นเครื่องมือวิเคราะห์เทรนด์ที่ทรงพลัง ช่วยให้เราเข้าใจความสนใจของผู้คน ค้นหาไอเดียคอนเทนต์ และวางกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทาง Funnel เราใช้Google Trend วิเคราะห์ Google search insights เพื่อนำมาปรับใช้กับการทำ SEO และ SEM ให้กับลูกค้า ดังนั้นจึงมั่นใจและวางใจได้ ติดต่อเรา
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ วิธีใช้ Google Trend
Google Trend ทำงานยังไง
ค้นหาอะไรใน google มากที่สุด
1. ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล: เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละครึ่ง เฟส 5
2. ข่าวสาร: เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญๆ ในประเทศและต่างประเทศ เช่น
3. บุคคล: ดารา นักร้อง นักแสดง
ฟีเจอร์ใดใน Google Trend ที่ช่วยวางแผน Research Keyword จากหัวข้อย่อยหรือคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง?
1. หัวข้อที่เกี่ยวข้อง (Related Topics) ฟีเจอร์นี้แสดงรายการหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหา ช่วยให้คุณค้นหาคำค้นหาใหม่ ๆ และขยายขอบเขตการวิเคราะห์ของคุณ
2. การค้นหาที่เกี่ยวข้อง (Related Queries) ฟีเจอร์นี้แสดงรายการคำค้นหาที่ผู้คนใช้ค้นหาหลังจากค้นหาคำค้นหาหลัก ช่วยให้เข้าใจความต้องการของผู้ใช้และค้นหาคำค้นหาที่มีศักยภาพ
3. ตัวกรอง (Filters) ช่วยกรองผลการค้นหาของคุณตามช่วงเวลา ประเภท ภูมิภาค อุปกรณ์ และเพศ ช่วยให้เจาะจงการวิเคราะห์มากขึ้น
เครื่องมือ Google Trend มีประโยชน์ต่อผู้ผลิตคอนเทนต์อย่างไร
2. วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ฟีเจอร์ “Demographics” แสดงข้อมูลประชากรของผู้ใช้ที่ค้นหาคำค้นหา ช่วยให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายและสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจ
3. หาคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ “Keyword Tool” ช่วยวิเคราะห์ปริมาณการค้นหาและความยากง่ายในการจัดอันดับ