Shopping Google Ads คืออะไร? รูปแบบโฆษณาออนไลน์ที่ห้ามมองข้ามในยุคปัจจุบันนี้
Shopping Google Ads เป็นตัวช่วยที่สำคัญในปัจจุบันนี้ เนื่องจากการทำธุรกิจออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนหันมาซื้อสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันทางการตลาดบนโลกออนไลน์สูงขึ้นตามไปด้วย ผู้ประกอบการจึงต้องหาวิธีที่จะโปรโมทสินค้าและบริการของตนให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด
Shopping Google Ads เป็นอีกหนึ่งในวิธียอดนิยมในการโปรโมทสินค้าและบริการออนไลน์ พร้อมกับรูปภาพ ราคา และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง บนหน้าผลการค้นหาของ Google ทำให้ผู้ที่กำลังมองหาสินค้าหรือบริการนั้น ๆ สามารถเห็นสินค้าของคุณได้ง่ายและตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว
Google Shopping Ads คืออะไร?
Google Shopping Ads คือ รูปแบบโฆษณาของ Google ที่ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถโปรโมตสินค้าของตนบนหน้าผลการค้นหาของ Google โดยโฆษณาจะแสดงในรูปแบบของ Shopping Card ซึ่งประกอบด้วยรูปภาพสินค้า ราคา ชื่อร้านค้า และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ข้อดีของการใช้ Google Shopping Ads
ช่วยดึงดูดสายตาได้มากกว่า
โฆษณาแบบ Google Shopping Ads จะอยู่ด้านบนสุดและด้านข้างของหน้าจอแสดงผล อีกทั้งยังมีพื้นที่มากกว่า Google Search Ads และ Google Organic Search ด้วย ทำให้สามารถดึงดูดสายตาได้อย่างดีเยี่ยม
ตัวอย่างเช่น Google Shopping Ads Lazada ที่มักจะแสดงสินค้าต่าง ๆ ที่ขายบนแพลตฟอร์มให้เราได้เห็นทันทีที่ค้นหาสินค้า
คนสนใจภาพมากกว่าข้อความ
จากผลสำรวจ Google Shopping Ads Strategyพบว่าผู้ใช้งานให้ความสนใจ Image Ads มากกว่า Text Ads กว่า 30% นั่นหมายความว่า หากคุณต้องการให้ผู้ใช้งานเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น การแสดงภาพสินค้าสามารถจูงใจลูกค้าให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้รวดเร็ว
หากเปรียบเทียบการค้นหาสินค้าจาก Keyword แล้วต้องไล่อ่านไปแต่ละเว็บไซต์ กับการคลิกเลือกสินค้าจากภาพ Shopping Card โดยตรงที่สะดวกมากกว่า สามารถทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งเป็นการใช้ Google Shopping Ads Strategy รูปแบบหนึ่ง
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ
การที่ผู้ใช้งานค้นหา Keyword ของสินค้า นั่นก็เพราะมีความต้องการหรือสนใจสินค้านั้น ๆ เท่ากับว่าพวกเขามีโอกาสที่จะตัดสินใจซื้อสูงมาก
Google Shopping Ads จึงสามารถเข้าถึงคนที่มีโอกาสซื้อได้อย่างแม่นยำ และทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นได้จริง เช่น Google Shopping Ads Shopee ที่ใช้ประโยชน์จากข้อนี้ทำให้ลูกค้าจำนวนมากใช้งานแพลตฟอร์ม E-commerce นี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
Google Shopping มีหน้าที่อะไร? หลักการทำงานเป็นยังไง?
Google Shopping Ads Strategyป็นรูปแบบโฆษณาของ Google ที่ช่วยโปรโมตสินค้าบนหน้าผลการค้นหาของ Google (SERP) โดยโฆษณาจะแสดงในรูปแบบของ Shopping Card ที่มีทั้งภาพ ราคา และรายละเอียด หากผู้ใช้งานสนใจสามารถกดเข้าไปและระบบจะลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่จำหน่ายสินค้านั้น ๆ ทันที
โดยจะเลือกสินค้าจาก Shopping Feed มาแสดงให้ตรงกับ “คำค้นหา” ของผู้ใช้งาน Google
วิธีเตรียมเว็บไซต์ก่อนทำ Google Shopping Ads
การเตรียมเว็บไซต์ก่อนทำ Google Shopping Ads จะช่วยให้คุณสามารถสร้างแคมเปญโฆษณา Shopping Ads ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสิ่งที่สำคัญที่ต้องเตรียมมีดังนี้
- มีข้อมูลสินค้าอย่างครบถ้วน: ข้อมูลสินค้าเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการสร้างแคมเปญ Google Shopping Ads เช่น ชื่อ รูปภาพ ราคาสินค้า รายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- มีรูปภาพสินค้าที่มีคุณภาพสูง: รูปภาพสินค้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Google Shopping Ads รูปภาพที่ดีควรมีความชัดเจนและแสดงรายละเอียดของสินค้าอย่างครบถ้วน
- มีนโยบายการคืนสินค้าและคืนเงินที่ชัดเจน: Google กำหนดให้ร้านค้าออนไลน์ต้องมีนโยบายการคืนสินค้าและคืนเงิน เพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจว่าจะได้รับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ หากร้านค้าออนไลน์ของคุณไม่มีนโยบายการคืนสินค้าและคืนเงิน คุณจะต้องสร้างนโยบายเหล่านั้น
- มีโครงสร้างเว็บไซต์ที่ถูกต้อง: โครงสร้างเว็บไซต์ที่ถูกต้องจะช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์และแสดงโฆษณาของคุณได้อย่างถูกต้อง
- มีความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ที่รวดเร็ว: ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ที่รวดเร็วจะช่วยให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณมีประสบการณ์การใช้งานที่ดีและเพิ่มโอกาสในการคลิกโฆษณามากขึ้น
เว็บไซต์ที่ควรใช้ Google Shopping คืออะไร
เว็บไซต์ที่ขายสินค้าที่มีรูปลักษณ์และรายละเอียดชัดเจน Google Shopping Ads Example เช่น เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น เพราะว่า Google Shopping Ads จะแสดงรูปภาพและราคาของสินค้าบนหน้าผลการค้นหาของ Google โดยตรง ทำให้ผู้เข้าชมสามารถเปรียบเทียบสินค้าได้ง่ายและตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนการใช้ Google Shopping Ads ทำยังไง
1. สร้างบัญชี Google Merchant Center
คุณสามารถสร้างบัญชี Google Merchant Center ได้ฟรี โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ Google Merchant Center และคลิกที่ปุ่ม “เริ่มต้นใช้งาน”
เมื่อคุณสร้างบัญชี Google Merchant Center เรียบร้อยแล้ว คุณต้องยืนยันบัญชีของคุณโดยคลิกที่ลิงก์ในอีเมลยืนยัน
2. สร้างแคมเปญ Shopping Ads
เมื่อคุณมีบัญชี Google Merchant Center แล้ว คุณสามารถสร้างแคมเปญ Shopping Ads ในบัญชี Google Ads ได้
- ไปที่เว็บไซต์ Google Ads และลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ
- คลิกที่ปุ่ม “แคมเปญ”
- คลิกที่ปุ่ม “ใหม่”
- เลือก “Shopping”
- เลือก “สร้างแคมเปญใหม่”
- ตั้งชื่อแคมเปญและเลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญ
- เลือกบัญชี Merchant Center ที่จะใช้กับแคมเปญ
- ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายของแคมเปญ
- ตั้งค่าราคาเสนอของแคมเปญ
- คลิกที่ปุ่ม “บันทึก”
3. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญ Shopping Ads โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น คำค้นหา สถานที่ และความสนใจ
- ไปที่หน้าแคมเปญ Shopping Ads ของคุณ
- คลิกที่แท็บ “กลุ่มเป้าหมาย”
- ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายของคุณ
4. ตั้งค่าราคาเสนอ
ราคาเสนอของคุณจะเป็นตัวกำหนดว่าโฆษณาของคุณจะแสดงผลเมื่อใดและบ่อยเพียงใด
- ไปที่หน้าแคมเปญ Shopping Ads ของคุณ
- คลิกที่แท็บ “ราคาเสนอ”
- ตั้งค่าราคาเสนอของคุณ
5. เริ่มแคมเปญ Shopping Ads
เมื่อคุณกำหนดค่าแคมเปญ Shopping Ads เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเริ่มแคมเปญได้
- ไปที่หน้าแคมเปญ Shopping Ads ของคุณ
- คลิกที่ปุ่ม “เริ่ม”
ทำไมธุรกิจออนไลน์ไม่ควรมองข้าม Google Shopping Ads
ธุรกิจออนไลน์ไม่ควรมองข้าม Google Shopping Ads เพราะ Google Shopping Ads เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการโปรโมตสินค้าออนไลน์
โดยโฆษณาของคุณจะแสดงผลบนหน้าผลการค้นหาของ Google ซึ่งเป็นแหล่งที่ผู้คนจำนวนมากใช้ในการค้นหาสินค้า ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่โฆษณาของคุณจะถูกมองเห็นโดยกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น Google Ads ร้านอาหารที่อยากเพิ่มยอดขายออนไลน์ก็สามารถใช้ GSD ได้
Google Shopping Ads คิดค่าบริการอย่างไร?
Shop Google Ads คิดค่าบริการแบบ Pay-per-click (PPC) ซึ่งหมายความว่าจะจ่ายเงินเฉพาะเมื่อมีคนคลิกโฆษณาเท่านั้น
สรุปการใช้ Shopping Google Ads ดีอย่างไร
การใช้ Google Shop Ads สามารถช่วยโปรโมทสินค้าให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเว็บไซต์และตัดสินใจซื้อได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังมีข้อดีมากมายคือ
- ตรงกลุ่มเป้าหมาย โฆษณาแสดงต่อผู้ค้นหาสินค้าที่เกี่ยวข้อง
- เพิ่มโอกาสขาย มองเห็นสินค้าได้ง่าย ตัดสินใจซื้อเร็ว
- วัดผลได้ รายงานผลลัพธ์ช่วยให้ปรับแต่งแคมเปญ