รวมวิธีสร้างเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็ก พร้อมแนะนำเครื่องมือ 2024

ทำไมธุรกิจขนาดเล็กถึงต้องการสร้างเว็บไซต์ที่มี SEO ที่ดี? ในยุคดิจิทัลนี้ การมีเว็บสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ช่วยให้ผู้คนจำนวนมากค้นหาสินค้าและบริการได้ง่าย ดังนั้นการมีเว็บไซต์ที่มี SEO ที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจของคุณปรากฏต่อลูกค้าที่อาจเป็นไปได้มากขึ้น เว็บไซต์ที่มีวิธีสร้างเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กอย่างดีและให้ข้อมูลธุรกิจครบถ้วน สามารถช่วยสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้าที่อาจเป็นไปได้ และแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณเป็นธุรกิจที่มั่นคงและเชื่อถือได้ เว็บไซต์ของคุณเป็นวิธีที่ดีในการสื่อสารกับลูกค้าเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ คุณสามารถใช้เว็บไซต์ของคุณเพื่อแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ โพสต์บทความข่าว และตอบคำถามของลูกค้า

ทำไมเว็บไซต์ถึงจำเป็นกับธุรกิจขนาดเล็ก

1. เพิ่มการเข้าถึงลูกค้า

เว็บไซต์ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน 7 วันต่อสัปดาห์ ลูกค้าที่ค้นหาสินค้าหรือบริการที่คุณนำเสนอจะสามารถค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการขาย

2. สร้างความน่าเชื่อถือ

การมีเว็บไซต์มืออาชีพจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ แสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายและน่าเชื่อถือ

3. แสดงข้อมูลสินค้าและบริการ

เว็บไซต์เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณ คุณสามารถให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณ ราคา รูปภาพ วิดีโอ และอื่นๆ

4. สื่อสารกับลูกค้า

เว็บไซต์มีหลายวิธีในการสื่อสารกับลูกค้า คุณสามารถเพิ่มแบบฟอร์มติดต่อ แชทสด หรือส่วน FAQ เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อคุณได้ง่าย dàng

5. รวบรวมข้อมูลลูกค้า

คุณสามารถใช้เว็บไซต์เพื่อรวบรวมข้อมูลลูกค้า เช่น ที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลนี้สามารถใช้เพื่อส่งข้อความทางการตลาดหรือข้อเสนอพิเศษ

6. เพิ่มยอดขาย

เว็บไซต์สามารถใช้เพื่อเพิ่มยอดขายโดยตรง คุณสามารถตั้งค่าร้านค้าออนไลน์เพื่อขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้

7. ติดตามผลการดำเนินงาน

คุณสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์เว็บเพื่อติดตามผลการดำเนินงานของเว็บไซต์ของคุณ ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจะปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

การเตรียมตัวก่อนทำเว็บไซต์ของธุรกิจขนาดเล็ก

สร้างเว็บไซต์ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?

1. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน

  • คุณต้องการอะไรจากเว็บไซต์? ต้องการเพิ่มยอดขาย? ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์? ต้องการให้ลูกค้าติดต่อคุณ?
  • เมื่อคุณรู้เป้าหมายแล้ว คุณสามารถออกแบบเว็บไซต์และเนื้อหาให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้

2. ตรวจสอบทรัพยากรที่มีอยู่

  • คุณมีงบประมาณเท่าไหร่สำหรับเว็บไซต์?
  • คุณมีทักษะการออกแบบเว็บหรือเขียนเว็บหรือไม่?
  • คุณมีเวลาเท่าไหร่ในการสร้างและจัดการเว็บไซต์?

3. ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ

  • ใครคือลูกค้าเป้าหมายของคุณ?
  • พวกเขาอยู่ที่ไหนออนไลน์?
  • พวกเขามีความสนใจอะไร?
  • พวกเขามีปัญหาอะไร?

4. เตรียมเนื้อหาหลัก

  • คุณต้องการแสดงอะไรบนเว็บไซต์ของคุณ?
  • คุณมีรูปภาพ วิดีโอ หรือเนื้อหาอื่นๆ ใดๆ ที่คุณสามารถใช้ได้หรือไม่?

5. ตั้งงบประมาณ

  • ค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์มีแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเว็บไซต์และทักษะที่คุณต้องการ
  • คุณควรตั้งงบประมาณสำหรับการออกแบบ การพัฒนา โดเมน โฮสติ้ง การบำรุงรักษา และการตลาด

ปัจจัยที่ต้องระวังในการสร้างเว็บไซต์

การสร้างเว็บไซต์ที่ดีต้องอาศัยการวางแผน การออกแบบ และการพัฒนาอย่างรอบคอบ มี 5 ปัจจัยสำคัญที่คุณต้องระวังเป็นพิเศษ

1. การออกแบบที่ไม่ใช้งานง่าย

  • เว็บไซต์ของคุณควรใช้งานง่ายและนำทางได้ง่าย
  • หลีกเลี่ยงการใช้การออกแบบที่ซับซ้อน กราฟิกที่รก หรือข้อความที่ยาว
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ใช้สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

2. เนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพ

  • เนื้อหาของคุณควรมีข้อมูล ถูกต้อง และเป็นประโยชน์
  • หลีกเลี่ยงการใช้เนื้อหาที่ลอกเลียนแบบ มีข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ หรือไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
  • อัปเดตเนื้อหาของคุณอยู่เสมอด้วยข้อมูลใหม่

3. เว็บไซต์ที่ไม่รองรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

  • ในปัจจุบัน ผู้คนจำนวนมากใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเพื่อท่องเว็บ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับการออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และใช้งานง่ายบนหน้าจอขนาดเล็ก

4. เว็บไซต์ที่โหลดช้า

  • เว็บไซต์ที่โหลดช้าอาจทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดและออกจากเว็บไซต์ของคุณ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการโหลดเร็ว
  • ใช้รูปภาพที่มีขนาดเล็ก หลีกเลี่ยงการใช้ Flash และรวมโค้ด JavaScript ให้เหลือน้อยที่สุด

5. การรักษาความปลอดภัยที่ไม่ดี

  • เว็บไซต์ของคุณควรปลอดภัยสำหรับผู้เยี่ยมชม
  • ใช้ใบรับรอง SSL และรหัสผ่านที่รัดกุม
  • ปรับปรุงซอฟต์แวร์เว็บไซต์ของคุณอยู่เสมอเพื่อป้องกันช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

นอกจาก 5 ปัจจัยเหล่านี้แล้ว ยังมีสิ่งอื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึงเมื่อสร้างเว็บไซต์ เช่น การเข้าถึง การบำรุงรักษา และงบประมาณ การจ้างนักออกแบบเว็บมืออาชีพสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปเหล่านี้และสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพและน่าดึงดูด

10 วิธีสร้างเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็ก

1. วางแผนก่อนสร้าง

วิธีการทำเว็บก่อนอื่น คุณต้องวางแผนว่าเว็บไซต์ของคุณต้องการอะไรบ้าง ต้องการแสดงข้อมูลอะไร ต้องการให้ลูกค้าทำอะไรบนเว็บไซต์ของคุณ กำหนดกลุ่มเป้าหมายของคุณ

2. เลือกชื่อโดเมนและโฮสติ้ง

ชื่อโดเมนคือชื่อเว็บไซต์ของคุณ โฮสติ้งคือพื้นที่เก็บข้อมูลเว็บไซต์ของคุณ เลือกชื่อโดเมนที่จดจำง่าย ตรงกับธุรกิจของคุณ และเลือกโฮสติ้งที่มีความน่าเชื่อถือ

3. เลือกแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์

การเขียนเว็บไซต์ มีแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ให้เลือกมากมาย แต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป

  • แพลตฟอร์มแบบสร้างเอง: เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้ด้านเขียนโปรแกรม ช่วยให้ปรับแต่งเว็บไซต์ได้อิสระ แต่ใช้เวลานานและต้องมีความรู้
  • แพลตฟอร์มแบบสำเร็จรูป: เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ใช้งานง่าย ไม่ต้องเขียนโปรแกรม แต่ตัวเลือกการปรับแต่งอาจจำกัด
  • แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ยอดนิยมสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เช่น Wix, WordPress, Shopify

4. ออกแบบเว็บไซต์

การออกแบบเว็บไซต์ควรเรียบง่าย ดึงดูดสายตา และใช้งานง่าย

  • ใช้สีสันและตัวอักษรที่สื่อถึงแบรนด์ของคุณ
  • จัดวางเนื้อหาให้ชัดเจน อ่านง่าย
  • ใส่รูปภาพและวิดีโอที่เกี่ยวข้อง
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณดูดีบนทุกอุปกรณ์

5. เขียนเนื้อหา

เนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณควรให้ข้อมูล ครบถ้วน และน่าสนใจ

  • เขียนคำอธิบายธุรกิจของคุณ สินค้าและบริการของคุณ
  • บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ
  • เขียนบล็อกหรือบทความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
  • ใส่คำหลักที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นหาเว็บไซต์ของคุณ

6. ทำให้เว็บไซต์ของคุณค้นหาเจอ

มีหลายวิธีที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณค้นหาเจอบนเครื่องมือค้นหา เช่น Google

  • ใส่คำหลักที่เกี่ยวข้องในเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณ
  • สร้างแบ็กก์ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ
  • ส่งเว็บไซต์ของคุณไปยังไดเรกทอรีเว็บ
  • โปรโมทเว็บไซต์ของคุณบนโซเชียลมีเดีย

7. ทำให้เว็บไซต์ของคุณใช้งานง่าย

เว็บไซต์ของคุณควรใช้งานง่าย ลูกค้าสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่าย

  • ใช้เมนูที่ชัดเจน
  • ใส่ปุ่ม CTA (Call to Action)
  • ทำให้เว็บไซต์ของคุณโหลดเร็ว
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์

8. วิเคราะห์ข้อมูล

ติดตามดูว่าลูกค้าของคุณมีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของคุณอย่างไร วิเคราะห์ข้อมูลนี้เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณ

9. อัปเดตเว็บไซต์ของคุณอยู่เสมอ

เนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณควรเป็นปัจจุบัน โพสต์เนื้อหาใหม่เป็นประจำ อัปเดตข้อมูลสินค้าและบริการของคุณ

10. จ้างมืออาชีพ

หากคุณไม่มีเวลาหรือทักษะในการสร้างเว็บไซต์ คุณสามารถจ้างมืออาชีพมาช่วยคุณได้

แนะนำ 6 เครื่องมือสำหรับเว็บไซต์ธุรกิจ

  1. WordPress

WordPress เป็นแพลตฟอร์มบล็อกและระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ยอดนิยม ใช้งานง่าย แม้ว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์การเขียนโค้ดก็ตาม มีธีมและปลั๊กอินมากมายให้เลือก ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจ

  1. Wix

Wix เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการสร้างเว็บไซต์ธุรกิจ และสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ใช้งานง่าย เช่นเดียวกับ WordPress และมีเทมเพลตและคุณสมบัติมากมายให้เลือก Wix ยังมีแผนพรีเมียมที่ให้คุณสามารถโฮสต์เว็บไซต์ของคุณเอง รับชื่อโดเมน และเข้าถึงคุณสมบัติเพิ่มเติม

  1. Squarespace

Squarespace เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์ที่สวยงามและใช้งานง่าย เทมเพลตของ Squarespace ได้รับการออกแบบมาอย่างมืออาชีพ และสามารถปรับแต่งได้ง่าย Squarespace ยังมีคุณสมบัติการตลาดออนไลน์มากมาย เช่น อีเมล การตลาดและการวิเคราะห์

  1. Shopify

Shopify เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม ช่วยให้คุณสร้างร้านค้าออนไลน์และเริ่มขายสินค้าได้อย่างง่ายดาย Shopify มีคุณสมบัติมากมาย รวมถึงตัวเลือกการชำระเงิน การจัดส่ง และการตลาด Shopify ยังมีแผนพรีเมียมที่ให้คุณสามารถเข้าถึงคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

  1. Mailchimp

Mailchimp เป็นบริการการตลาดทางอีเมลยอดนิยม ช่วยให้คุณสร้างและส่งแคมเปญอีเมลได้อย่างง่ายดาย Mailchimp มีแผนฟรี ซึ่งรวมถึงคุณสมบัติมากมาย เช่น เทมเพลตอีเมล การตอบกลับอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ Mailchimp ยังมีแผนพรีเมียมที่ให้คุณสามารถเข้าถึงคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น การแบ่งกลุ่ม การทดสอบ A/B และการสนับสนุนลูกค้า

  1. Canva

Canva เป็นเครื่องมือออกแบบกราฟิกออนไลน์ ช่วยให้คุณสร้างสรรค์ภาพ กราฟิก และเนื้อหาโซเชียลมีเดียที่สวยงาม แม้ว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์การออกแบบก็ตาม Canva มีเทมเพลตและเครื่องมือมากมาย ช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างง่ายดาย Canva ยังมีแผนพรีเมียมที่ให้คุณสามารถเข้าถึงคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น โลโก้ แบบอักษร และรูปภาพสต็อก

เว็บไซต์ที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ยังติดอันดับค้นหา พบเจอลูกค้าได้ง่าย ถ้าทำเว็บไซต์ WordPress อย่างมืออาชีพ ที่ Funnel พร้อมออกแบบดีไซน์สวย ทันสมัย ใช้งานง่าย ปรับแต่งเว็บไซต์ให้รองรับ SEO เต็มรูปแบบ ติดอันดับบน Google เร็วทันใจ เพราะเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ เข้าใจกลยุทธ์ SEO ลึกซึ้ง บริการครบวงจร ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ เขียนคอนเทนต์ ดูแล SEO บริการหลังการขายดีเยี่ยม ตอบไว แก้ปัญหาตรงจุด

สอบถามรายละเอียดฟรี!! 

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ วิธีสร้างเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็ก

สร้างเว็บไซต์เองต้องเสียเงินไหม

การสร้างเว็บไซต์เองนั้น มีทั้งแบบเสียเงินและไม่เสียเงิน ขึ้นอยู่กับความต้องการและทักษะของคุณ เช่น แบบไม่เสียเงิน ใช้แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป มีหลายแพลตฟอร์มให้บริการฟรี เช่น Wix, Weebly, WordPress.com ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้น ไม่ต้องเขียนโค้ด แต่ฟีเจอร์ฟรีอาจมีจำกัด การออกแบบอาจไม่หลากหลาย และบางแพลตฟอร์มจะมีโฆษณาบนเว็บไซต์ของคุณ 

โปรแกรมในการสร้างเว็บไซต์ มีอะไรบ้าง

มีโปรแกรมสร้างเว็บไซต์มากมายให้เลือกใช้ แต่ละโปรแกรมมีจุดเด่น ข้อจำกัด และเหมาะกับผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. Wix ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้น มีเทมเพลตให้เลือกมากมาย รองรับระบบ Drag and Drop
2. Squarespace เน้นความสวยงาม ใช้งานง่าย เหมาะกับการสร้างเว็บไซต์แบบพอร์ตโฟลิโอ ร้านค้าออนไลน์ บล็อก มีเทมเพลตให้เลือกหลากหลาย มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
3. WordPress.com ปรับแต่งได้หลากหลาย เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานการเขียนโค้ด มีปลั๊กอินและธีมให้เลือกมากมาย พื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 5 GB มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
4. Weebly ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้น มีเทมเพลตให้เลือกมากมาย รองรับระบบ Drag and Drop ฟีเจอร์พื้นฐานครบครัน

ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง


1. กำหนดวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมาย
2. วางแผนโครงสร้างเว็บไซต์
3. เลือกชื่อโดเมนและเว็บโฮสติ้ง
4. ออกแบบเว็บไซต์
5. พัฒนาเว็บไซต์
6. เผยแพร่เว็บไซต์
7. ดูแลและรักษาเว็บไซต์

Similar Posts