Local SEO คืออะไร ขั้นตอน เทคนิคการทำ วิธีเลือก Agency ที่ดี

Local SEO คือ กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์และการดำเนินการทางการตลาดออนไลน์เพื่อให้ธุรกิจของเราปรากฏในผลการค้นหาของลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียง ในส่วนนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมาย ความสำคัญ และผลประโยชน์ที่ธุรกิจท้องถิ่นจะได้รับจากการทำ Local SEO

เมื่อลูกค้าค้นหาสินค้าหรือบริการในพื้นที่ เช่น “ร้านอาหาร ใกล้ฉัน” หรือ “ช่างซ่อมรถยนต์ กรุงเทพ” Google จะแสดงผลธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องและอยู่ใกล้ตำแหน่งของผู้ค้นหามากที่สุดก่อน การทำ Local SEO ช่วยให้ธุรกิจของเราสามารถแข่งขันในการแสดงผลเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของ Local SEO สำหรับธุรกิจท้องถิ่นสามารถสรุปได้ดังนี้

  • เพิ่มการมองเห็น: ทำให้ธุรกิจปรากฏในผลการค้นหาท้องถิ่นและ Google Maps
  • ดึงดูดลูกค้าใกล้เคียง: เข้าถึงลูกค้าที่อยู่ในรัศมีบริการโดยตรง
  • เพิ่มการเข้าชมร้าน: กระตุ้นให้ลูกค้าเดินทางมาใช้บริการจริง
  • สร้างความน่าเชื่อถือ: รีวิวและคะแนนดีช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี

สถิติจาก Google พบว่า 76% ของผู้ที่ค้นหาธุรกิจท้องถิ่นบนสมาร์ตโฟนจะเข้าชมร้านภายใน 24 ชั่วโมง และ 28% ของการค้นหาเหล่านี้นำไปสู่การซื้อสินค้าหรือใช้บริการจริง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีกลยุทธ์ Local SEO ที่ดี

นอกจากนี้การทำ Local SEO ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเมื่อเทียบกับการโฆษณาแบบดั้งเดิม เพราะเราสามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการใช้บริการในพื้นที่ได้โดยตรง

การเข้าใจความหมายและความสำคัญของ Local SEO เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ในขั้นตอนต่อไปเราจะมาดูกันว่าองค์ประกอบและกลยุทธ์หลักใน Local SEO นั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

การทำงานของ Local SEO และปัจจัยการจัดอันดับที่สำคัญ

Local SEO ทำงานผ่านการปรับปรุงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการจัดอันดับในผลการค้นหาท้องถิ่น โดยเน้นการเชื่อมโยงข้อมูลธุรกิจกับตำแหน่งทางภูมิศาสตร์อย่างชัดเจน ในส่วนนี้เราจะมาทำความเข้าใจถึงกลไกการทำงานของ Local SEO และปัจจัยสำคัญที่บริษัท Local SEO Agency ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

กลไกหลักของ Local SEO อาศัยการวิเคราะห์สามเสาหลักที่ Google ใช้ในการจัดอันดับผลการค้นหาท้องถิ่น ซึ่งการทำงานนี้จะแตกต่างจาก SEO ทั่วไปตรงที่ต้องคำนึงถึงความใกล้เคียงทางสถานที่และความเกี่ยวข้องกับพื้นที่เป็นหลัก ผู้เชี่ยวชาญในการรับทำ Local SEO จึงต้องเข้าใจกลไกเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง

ปัจจัยการจัดอันดับหลักของ Local SEO

Local SEO Strategy ที่มีประสิทธิภาพต้องมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยสำคัญ 3 ประการหลัก ได้แก่

  • Relevance (ความเกี่ยวข้อง) – ธุรกิจของเราตรงกับสิ่งที่ผู้ค้นหากำลังมองหามากแค่ไหน
  • Distance (ระยะทาง) – ตำแหน่งธุรกิจใกล้กับผู้ค้นหาเพียงใด
  • Prominence (ความโดดเด่น) – ความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของธุรกิจในพื้นที่

สำหรับปัจจัยรองที่มีความสำคัญเช่นกัน ได้แก่ Google My Business Optimization, NAP Consistency (Name, Address, Phone Number), Local Citations, รีวิวจากลูกค้า, และ Local Backlinks จากเว็บไซต์ในพื้นที่ ซึ่งบริการ Local SEO Services คุณภาพจะดูแลทุกประเด็นเหล่านี้อย่างละเอียด

ข้อมูลจาก Google แสดงให้เห็นว่า 88% ของผู้ใช้งานที่ค้นหาธุรกิจท้องถิ่นบนมือถือจะติดต่อหรือไปที่ร้านภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของการมี Local SEO Search Optimization ที่ดี การทำ Google My Business อย่างถูกต้องจึงเป็นหัวใจหลักของการทำ Local SEO ให้ประสบความสำเร็จ

ในขั้นตอนถัดไปเราจะมาเจาะลึกกระบวนการ Local SEO Audit เพื่อประเมินสถานะปัจจุบันของธุรกิจและวางแผน Local SEO Strategy ที่เหมาะสมต่อไป

เริ่มต้นด้วยการปรับแต่ง Google Business Profile

การพัฒนา Local SEO Strategy ที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการปรับแต่ง Google Business Profile ให้สมบูรณ์แบบ เพราะโปรไฟล์นี้เป็นฐานสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของเราสามารถปรากฏในผลลัพธ์การค้นหาเชิงพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนนี้เราจะมาพูดถึงขั้นตอนการเพิ่มประสิทธิภาพโปรไฟล์และ Local SEO อย่างครบถ้วน

กลยุทธ์การทำ Local SEO ที่ประสบความสำเร็จจะต้องเน้นการปรับแต่ง Google Business Profile ให้สมบูรณ์ 100% โดยข้อมูลที่สำคัญประกอบไปด้วยชื่อธุรกิจ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เวลาทำการ และคำอธิบายธุรกิจที่ครอบคลุมคำสำคัญที่เกี่ยวข้อง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ระบบของ Google เข้าใจธุรกิจเราได้ดียิ่งขึ้น

องค์ประกอบสำคัญของ Google Business Profile ที่ต้องปรับแต่ง ได้แก่

  • การเพิ่มภาพถ่ายคุณภาพสูงอย่างน้อย 10 รูป รวมถึงภาพหน้าร้าน สินค้า และบริการ
  • การตอบกลับรีวิวลูกค้าภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อแสดงความใส่ใจต่อลูกค้า
  • การโพสต์ข่าวสารและอัพเดทธุรกิจสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  • การใช้ Categories ที่ตรงกับธุรกิจและเพิ่ม Secondary Categories ที่เกี่ยวข้อง

สถิติจาก Google แสดงให้เห็นว่าธุรกิจที่มี Google Business Profile ที่สมบูรณ์จะได้รับการมองเห็นเพิ่มขึ้นถึง 70% และมีโอกาสได้รับการคลิกเพื่อติดต่อเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับโปรไฟล์ที่ไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ Local SEO Services ที่มีคุณภาพจะคำนึงถึงการเพิ่ม Q&A และการใช้ Google Posts อย่างสม่ำเสมอ

การทำ Local SEO Audit เป็นประจำทุก 3 เดือนจะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของโปรไฟล์และปรับปรุงจุดที่ยังขาดอยู่ได้ทันท่วงที ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล NAP (Name, Address, Phone) และการติดตามอันดับใน Local Search Results

เมื่อ Google Business Profile ได้รับการปรับแต่งอย่างสมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างและจัดการ Local Citations เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในสายตาของเสิร์ชเอนจิน

Local SEO Audit และการวิจัย Keywords สำหรับธุรกิจท้องถิ่น

Local SEO Audit คือกระบวนการตรวจสอบและประเมินสถานะ SEO ปัจจุบันของธุรกิจท้องถิ่น เพื่อค้นหาจุดที่ต้องปรับปรุงและโอกาสในการเพิ่มการมองเห็นในผลการค้นหา ในส่วนนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการทำ Local SEO Audit อย่างครบถ้วน รวมถึงเทคนิคการวิจัย keywords ที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราโดดเด่นในพื้นที่

ขั้นตอนการทำ Local SEO Audit

การดำเนินการ Local SEO Audit ที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของธุรกิจ Google My Business Profile เป็นหัวใจสำคัญที่ต้องได้รับการตรวจสอบก่อน เพราะข้อมูล 85% ของลูกค้าใช้ Google Maps ในการค้นหาธุรกิจท้องถิ่น

องค์ประกอบสำคัญที่ต้องตรวจสอบใน Audit ได้แก่

  • ความถูกต้องของข้อมูล NAP (Name, Address, Phone) ในทุกแพลตฟอร์ม
  • การตั้งค่าหมวดหมู่ธุรกิจที่เหมาะสมและครบถ้วน
  • คุณภาพและจำนวนของรีวิวลูกค้า
  • การใช้งาน Local SEO Search Keywords ในเนื้อหาเว็บไซต์
  • ประสิทธิภาพของเว็บไซต์บนมือถือ

กลยุทธ์การวิจัย Keywords สำหรับธุรกิจท้องถิ่น

การทำ Local SEO Strategy ที่สมบูรณ์ต้องอาศัยการวิจัย Keywords ที่มุ่งเน้นไปที่พื้นที่เป้าหมาย เราควรมองหา Keywords ที่ผสมระหว่างชื่อสินค้า/บริการกับชื่อพื้นที่ เช่น “ร้านอาหารญี่ปุ่น สุขุมวิท” หรือ “คลินิกทันตกรรม บางนา”

เครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับ Local SEO Services ได้แก่ Google Keyword Planner, Ubersuggest และ SEMrush Local ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจ Search Volume และระดับการแข่งขันในพื้นที่เป้าหมาย การใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างถูกต้องจะเพิ่มโอกาสปรากฏในผลการค้นหาได้มากถึง 60%

การดำเนินการ Local SEO Audit และการวิจัย Keywords อย่างเป็นระบบจะช่วยให้เราเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจ การทำ Local SEO ที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากข้อมูลเหล่านี้เป็นหลัก ต่อไปเราจะมาดูวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพ Google My Business Profile อย่างละเอียด

การเพิ่มประสิทธิภาพ NAP Citations และ Schema Markup

การปรับปรุง NAP Citations และ Schema Markup เป็นหัวใจสำคัญของการทำ Local SEO ที่มีประสิทธิภาพ เพราะช่วยให้เสิร์ชเอนจินเข้าใจธุรกิจของเราได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนนี้เราจะมาดูวิธีการปรับแต่งข้อมูลธุรกิจและโครงสร้างข้อมูลให้เหมาะสมกับ Local SEO Strategy ที่ทันสมัย

NAP Citations คืออะไร ทำไมจึงสำคัญ?

NAP Citations ย่อมาจาก Name, Address, Phone Number คือการระบุข้อมูลธุรกิจให้ตรงกันทุกแพลตฟอร์ม การมี NAP ที่ถูกต้องและสอดคล้องกันช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในสายตา Google Maps และผลการค้นหา Local SEO Search ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ขั้นตอนการปรับปรุง NAP Citations ที่มีประสิทธิภาพ

  • ตรวจสอบความสม่ำเสมอ – ข้อมูลชื่อร้าน ที่อยู่ และโทรศัพท์ต้องเหมือนกันทุกที่
  • อัพเดทข้อมูลในไดเรกทอรี่ – บันทึกข้อมูลใน Google My Business, Facebook, Yellow Pages
  • ใช้รูปแบบที่อยู่มาตรฐาน – เขียนที่อยู่ให้เป็นไปตาม Thailand Post format
  • ติดตามและแก้ไขข้อผิดพลาด – ใช้เครื่องมือ Local SEO Audit ตรวจสอบสม่ำเสมอ

Schema Markup สำหรับ Local Business

Schema Markup คือรหัสพิเศษที่ช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น สำหรับธุรกิจท้องถิ่น การใช้ Local Business Schema สามารถเพิ่มโอกาสการแสดงผลในรูปแบบ Rich Snippets ได้มากถึง 87% จากการศึกษาของ Search Engine Land

ประเภท Schema ที่ควรใช้สำหรับ Local SEO Services

  • LocalBusiness Schema – ข้อมูลพื้นฐานธุรกิจ เวลาเปิด-ปิด รีวิว
  • Organization Schema – โลโก้ ข้อมูลติดต่อ โซเชียลมีเดีย
  • Review Schema – คะแนนและความคิดเห็นลูกค้า
  • Service Schema – รายละเอียดบริการแต่ละประเภท

หากต้องการทำ Local SEO แบบครบวงจร การมี NAP Citations และ Schema Markup ที่เหมาะสมจะช่วยให้ผลงานออกมาดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทำงานร่วมกับ Local SEO Agency ที่มีประสบการณ์

การดูแล NAP Citations และ Schema Markup อย่างสม่ำเสมอจะช่วยเสริมประสิทธิภาพ Local SEO ให้แข็งแกร่งขึ้น

การเลือก Agency ที่เหมาะสม

การเลือก Local SEO Agency ที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การทำ Local SEO ประสบความสำเร็จ ในส่วนนี้เราจะมาดูวิธีการเลือก Local SEO Services และเกณฑ์ในการประเมินผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ

จะเลือก Local SEO Agency อย่างไร?

การเลือกบริษัทรับทำ Local SEO ที่เชื่อถือได้นั้น เราต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน แนวทางที่ดีคือการมองหาผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน Local SEO และเข้าใจธุรกิจในพื้นที่ของเรา

เกณฑ์สำคัญในการเลือก Local SEO Services มีดังนี้

  • ประสบการณ์เฉพาะด้าน – มีผลงานการทำ Local SEO ในธุรกิจประเภทเดียวกัน
  • ความเชี่ยวชาญเฉพาะพื้นที่ – เข้าใจลูกค้าและตลาดในพื้นที่ของเรา
  • Package ที่ครบถ้วน – ครอบคลุม Google Business Profile, Local Citations, และ Local SEO Audit
  • การรายงานผลที่โปร่งใส – รายงานการติดอันดับและ Traffic จากการ Local SEO Search

ข้อมูลสถิติแสดงว่า 86% ของธุรกิจท้องถิ่นที่ใช้บริการ Local SEO Agency มืออาชีพจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นภายใน 3-6 เดือน โดยเฉลี่ยจะมี Traffic เพิ่มขึ้น 25-40% และลูกค้าติดต่อเพิ่มขึ้น 15-30%

อีกสิ่งสำคัญคือการตรวจสอบ Local SEO Strategy ที่ Agency นำเสนอ ว่าเหมาะสมกับเป้าหมายธุรกิจของเราหรือไม่ รวมถึงการดู Case Study ผลงานที่ผ่านมาเพื่อประกอบการตัดสินใจ

การเลือก Local SEO Services ที่เหมาะสมจะช่วยให้เราประหยัดเวลาและได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ต่อไปเราจะมาดูขั้นตอนการวางแผน Local SEO Strategy ที่มีประสิทธิภาพกัน

Local SEO Tools และการวัดผลประสิทธิภาพที่แม่นยำ

เครื่องมือ Local SEO ที่เหมาะสมคือกุญแจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ การเลือกใช้เครื่องมือและการวัดผลที่ถูกต้องจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการทำ Local SEO ได้อย่างชัดเจน ในส่วนนี้เราจะมาดูเครื่องมือที่จำเป็นและวิธีการวัดผลที่ควรรู้

เครื่องมือหลักสำหรับ Local SEO Audit

การทำ Local SEO Audit ต้องใช้เครื่องมือที่หลากหลายเพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วน เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยเราวิเคราะห์ปัญหาและโอกาสในการปรับปรุง

  • Google My Business Insights – ให้ข้อมูลการมองเห็นและการคลิกไปยังเว็บไซต์
  • Google Search Console – ติดตาม Local SEO Search Keywords และอันดับในพื้นที่
  • BrightLocal – เฉพาะสำหรับ Local SEO Services และการติดตามอันดับหลายสาขา
  • Moz Local – ตรวจสอบความสม่ำเสมอของข้อมูลธุรกิจในแพลตฟอร์มต่าง ๆ

หากเราใช้ Local SEO Agency มืออาชีพ พวกเขามักจะมีเครื่องมือชั้นนำเหล่านี้พร้อมใช้งาน และสามารถตีความข้อมูลได้อย่างถูกต้อง การรับทำ Local SEO จากผู้เชี่ยวชาญจึงช่วยให้เราได้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณภาพมากกว่าการทำเอง

KPIs ที่สำคัญในการวัดผล

Local SEO Strategy ที่ดีต้องมีการวัดผลที่ชัดเจน ตัวชี้วัดหลักที่เราควรติดตามประกอบด้วย:

  • Local Pack Ranking – อันดับใน Google Map Pack (เป้าหมายคือ Top 3)
  • Google My Business Views – จำนวนครั้งที่ลูกค้าเห็นธุรกิจเรา (เพิ่มขึ้น 15-30% ต่อเดือน)
  • Direction Clicks – การคลิกขอเส้นทาง (แสดงถึงการมาเยือนจริง)
  • Phone Calls – สายเรียกเข้าจาก GMB (conversion ที่สำคัญที่สุด)

การทำ Local SEO คือการลงทุนระยะยาว การติดตามตัวเลขเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงที และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการดำเนินงาน

เมื่อเราเข้าใจเครื่องมือและการวัดผลแล้ว สิ่งสำคัญคือการนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ระยะยาว ซึ่งจะเป็นหัวข้อที่เราจะพูดถึงต่อไป

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงและแนวโน้มอนาคต

การทำ Local SEO ที่ผิดพลาดอาจทำให้ธุรกิจของเราสูญเสียลูกค้าในพื้นที่ไปโดยไม่จำเป็น ในส่วนนี้เราจะพูดถึงข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดใน Local SEO Strategy รวมถึงแนวโน้มใหม่ที่ควรติดตามเพื่อให้ธุรกิจของเราก้าวทันยุคดิจิทัล

ข้อผิดพลาดหลักใน Local SEO ที่ควรหลีกเลี่ยง

การศึกษาจาก Local SEO Audit ของธุรกิจต่าง ๆ พบว่ามีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด ดังนี้

  • ข้อมูล NAP ไม่สอดคล้องกัน – การที่ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ไม่ตรงกันในแต่ละแพลตฟอร์ม ทำให้ Google สับสนและลดความน่าเชื่อถือ
  • ไม่ตอบกลับรีวิวของลูกค้า – การเพิกเฉยต่อรีวิวส่งผลเสียต่อการจัดอันดับ Local SEO Search อย่างมาก
  • ไม่ใส่ Local Keywords ในเนื้อหา – การไม่กล่าวถึงพื้นที่ให้บริการในเนื้อหาเว็บไซต์
  • ไม่อัพเดทข้อมูลเวลาทำการ – ข้อมูลที่ล้าสมัยทำให้ลูกค้าเดินทางมาแล้วไม่เจอร้านเปิด

สถิติจาก Google แสดงให้เห็นว่าการรับทำ Local SEO ที่ผิดวิธีอาจทำให้ธุรกิจสูญเสียลูกค้าถึง 60% เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์

แนวโน้มอนาคตของ Local SEO

เทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง Local SEO Agency ชั้นนำจึงต้องปรับ Local SEO Services ให้ทันสมัยตามแนวโน้มใหม่

  • Voice Search Optimization – การปรับเนื้อหาให้เหมาสมกับการค้นหาด้วยเสียง
  • Hyper-Local Targeting – การกำหนดเป้าหมายในรัศมีที่แคบลงมากขึ้น
  • Visual Search Integration – การค้นหาด้วยภาพจะเพิ่มความสำคัญขึ้น
  • AI-Powered Personalization – การปรับแต่งผลการค้นหาตามความชอบส่วนบุคคล

การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้และการปรับตัวตามแนวโน้มใหม่จะช่วยให้ธุรกิจของเรามีความได้เปรียบในการแข่งขัน Local SEO อย่างยั่งยืน

หากต้องการหา Local SEO Agency ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ สอบถามรายละเอียดฟรี!! กับ FUNNEL

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Local SEO

Local SEO ทำยังไง?

การทำ Local SEO เริ่มต้นด้วยการตั้งค่า Google My Business ให้สมบูรณ์ รวมถึงใส่ข้อมูลธุรกิจ รูปภาพ และเวลาทำการให้ครบถ้วน จากนั้นต้องเพิ่ม NAP (Name, Address, Phone) ให้ตรงกันในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์

นอกจากนี้ Local SEO Strategy ที่ครอบคลุมต้องรวมถึงการสร้างเนื้อหาที่มีคำค้นหาท้องถิ่น การรวบรวมรีวิวจากลูกค้า และการสร้าง local citations จากเว็บไซต์ท้องถิ่นที่เชื่อถือได้ หากต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรพิจารณาการรับทำ Local SEO จาก Local SEO Agency ที่มีประสบการณ์

SEO มีกี่ประเภท?

SEO แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ On-Page SEO (การปรับปรุงภายในเว็บไซต์) Off-Page SEO (การสร้างความน่าเชื่อถือจากภายนอก) และ Technical SEO (การปรับแต่งด้านเทคนิค) แต่ละประเภทมีหน้าที่และวิธีการที่แตกต่างกัน

สำหรับธุรกิจท้องถิ่น จะมี Local SEO เป็นประเภทพิเศษที่เน้นการปรากฏในผลการค้นหาของพื้นที่ใกล้เคียง Local SEO คือ การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์เพื่อให้ปรากฏในผลการค้นหาเมื่อมีคนค้นหาสินค้าหรือบริการในพื้นที่ Local SEO Services ยังรวมถึงการทำ Local SEO Audit เพื่อวิเคราะห์จุดที่ต้องปรับปรุงในการค้นหาท้องถิ่น

Similar Posts