Google Display Network คืออะไร? สำคัญอย่างไร ทำไมต้องรู้จักสำหรับคนยิง Ads

Google Display Network (GDN) เป็นรูปแบบหนึ่งของโฆษณา Google Ads  ที่สามารถแสดงโฆษณาบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทั่วโลก และดึงดูดให้ผู้ใช้งาน Google สามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายมากขึ้น 

บทความนี้จึงอยากขอพาทุกคนไปรู้จักกับ Google Display Network ให้มากขึ้นว่าความจริงแล้ว Google Display Network คืออะไร แล้วมีวิธีการใช้งานอย่างไรถึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด

  • ความสำคัญของ Google Display Network
  • สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ Google Display Network

Google Display Network คืออะไร?

Google Display Network หรือ GDN เป็นการโฆษณาด้วยแบนเนอร์ (Banner) หรือรูปภาพที่มีทั้งแบบภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งแสดงผลบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่เป็นพันธมิตรของ Google 

รูปแบบของ Google Display Network

Google Display Network มีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

  • แบบข้อความ (Text ads) : โฆษณาแบบข้อความที่ปรากฏในตำแหน่งต่าง ๆ บนเว็บไซต์ เช่น ด้านบน ด้านล่าง หรือด้านข้างของหน้าเว็บเพจ
  • แบบภาพ (Image ads) : โฆษณาแบบภาพที่มีรูปภาพและข้อความแสดงบนเว็บไซต์
  • แบบวิดีโอ (Video ads) : โฆษณาแบบวิดีโอที่ปรากฏบนเว็บไซต์หรือ YouTube
  • แบบ Rich Media Ads: โฆษณาบนเครือข่ายดิสเพลย์ของ Google ที่มีคุณสมบัติพิเศษ Google Display Network Examples เช่น ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรืออินเทอร์แอกชัน ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้มากขึ้น

5 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ Google Display Network

1. Google Display Ads คิดค่าโฆษณา 2 รูปแบบ

  • CPC (Cost per click): จ่ายเมื่อมีคนคลิกโฆษณาแบนเนอร์ของเราเท่านั้น รูปแบบนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการวัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาจากจำนวนคลิกที่ได้รับ
  • CPM (Cost per Mille): จ่ายเมื่อโฆษณาแสดงผลครบ 1,000 ครั้ง (แม้ไม่มียอดคลิก) รูปแบบนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ (Brand awareness)

2. Google Display Network ไม่สามารถวัดผลเชิงยอดขายได้

ถึงแม้ว่าการทำ GDN จะประสบความสำเร็จมากเพียงใด ก็ไม่อาจคาดการณ์ว่ายอดขายจะพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากการทำ Google Display Network นั้นเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์เป็นหลัก เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่ไม่ค่อยคลิกแบนเนอร์เพื่อซื้อสินค้า แต่จะเลือกซื้อตามช่องทางอื่นมากกว่า

3. Google Display Network กำหนดเป้าหมายได้

Google Display Network เป็นรูปแบบโฆษณาที่สามารถกำหนดวัตถุประสงค์ได้อย่างชัดเจน เช่น

  • ข้อมูลประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ การศึกษา พื้นที่ เป็นต้น
  • ความสนใจ เช่น หัวข้อต่าง ๆ บนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
  • พฤติกรรม เช่น ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
  • ข้อมูลธุรกิจ เช่น เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของธุรกิจ

4. Google Display Network ไม่ต้องเป็นภาพเท่านั้น

Google Display Network สามารถตั้งค่าเป็น Text Ads ได้ ซึ่งมีองค์ประกอบได้แก่ หัวข้อ, รายละเอียด และ URL

5. Google Display Network ทำ Remarketing ได้

Google Display Network สามารถทำ Remarketing ได้ โดยการแทรก Cookie ลงในเบราว์เซอร์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของธุรกิจ 

เมื่อผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันอีกครั้ง ธุรกิจจะสามารถระบุตัวผู้เข้าชมได้โดยใช้ Cookie นี้ และแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องให้กับผู้เข้าชมได้อีกครั้ง

Google Display Network Size ปี 2023

Google Display Network มีขนาดภาพโฆษณาให้เลือกใช้งานหลากหลาย เพื่อรองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนี้

ขนาดภาพโฆษณาสำหรับเดสก์ท็อป

  • Leaderboard: 728 x 90 พิกเซล
  • Large Rectangle: 336 x 280 พิกเซล
  • Medium Rectangle: 300 x 250 พิกเซล
  • Small Rectangle: 250 x 250 พิกเซล
  • Vertical Rectangle: 240 x 400 พิกเซล
  • Wide Skyscraper: 160 x 600 พิกเซล
  • Half-page: 300 x 600 พิกเซล
  • Vertical Banner: 120 x 240 พิกเซล

ขนาดภาพโฆษณาสำหรับมือถือ

  • Leaderboard: 728 x 90 พิกเซล
  • Large Rectangle: 336 x 280 พิกเซล
  • Medium Rectangle: 300 x 250 พิกเซล
  • Small Rectangle: 250 x 250 พิกเซล
  • Leaderboard: 320 x 100 พิกเซล
  • Large Rectangle: 300 x 50 พิกเซล
  • Medium Rectangle: 300 x 100 พิกเซล
  • Small Rectangle: 250 x 50 พิกเซล

ขนาดภาพโฆษณาสำหรับแท็บเล็ต

  • Leaderboard: 728 x 90 พิกเซล
  • Large Rectangle: 336 x 280 พิกเซล
  • Medium Rectangle: 300 x 250 พิกเซล
  • Small Rectangle: 250 x 250 พิกเซล
  • Leaderboard: 320 x 100 พิกเซล
  • Large Rectangle: 300 x 50 พิกเซล
  • Medium Rectangle: 300 x 100 พิกเซล
  • Small Rectangle: 250 x 50 พิกเซล

Google Display Ads สำคัญอย่างไร?

  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จำนวนมาก: Google Display Network มีเครือข่ายเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมากกว่า 2 ล้านรายการทั่วโลก

 ธุรกิจจึงสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ พฤติกรรม ตำแหน่งที่ตั้ง หรือกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง

  • สร้างการรับรู้แบรนด์: Google Display Network Ads ช่วยให้ธุรกิจสามารถแสดงโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสสนใจสินค้า ส่งผลให้เกิดการรับรู้แบรนด์และสร้างการจดจำแบรนด์ได้
  • กระตุ้นให้เกิด Conversion: GDN สามารถช่วยให้ธุรกิจกระตุ้นให้เกิด Conversion ต่าง ๆ เช่น การเยี่ยมชมเว็บไซต์ การดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หรือการทำธุรกรรมทางออนไลน์
  • วัดผลได้แม่นยำ: Google Display Network มีเครื่องมือวัดผลที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างแม่นยำ

วิธีเริ่มต้นใช้งาน Google Display Network (GDN)

1. เลือกเข้าที่ Google Display Network Sites > Campaigns > คลิกเครื่องหมาย + > เลือก New Campaigns

2. เลือกเป้าหมายในการทำ GDN ได้แก่ Sales / Leads / Website Traffic / Product and Brand Consideration / Brand Awareness and Reach / App Promotion ถ้ายังไม่แน่ใจว่ามีเป้าหมายอะไร สามารถเลือก “ทำโฆษณาแบบไม่กำหนดวัตถุประสงค์”

3. เลือก “Display” > ใส่หน้า Webpage > ใส่ชื่อแคมเปญ > กด Continue

4. เลือก Location (ที่อยู่ เลือกประเทศ) > เลือก Language (ภาษาที่ลูกค้าใช้) > กด Next

5. ใส่งบประมาณ

  • ใส่งบประมาณที่ต้องการจ่ายต่อวัน
  • ใส่เป้าหมายที่ต้องการ
  • ใส่ Bid ราคาโฆษณา

6. เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ

7. เลือกรูปแบบโฆษณา > อัปโหลดแบนเนอร์หรือวิดีโอโฆษณา > กด Next > ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง > กด Publish Campaign

>>ไม่อยากเสียเวลาทำ Google Display Network ด้วยตัวเอง ไม่ต้องกังวล! เพราะ Funnel.in.th มีบริการรับทำ Google Ads ให้ธุรกิจทุกประเภท สนใจติดต่อได้เลยที่นี่<<

Google Display Network แสดงบนเว็บไซต์วิธีไหนบ้าง?

  • แสดงผลตามตำแหน่ง (Placement Targeting): ธุรกิจสามารถกำหนดให้โฆษณาแสดงบนเว็บไซต์หรือหน้าเว็บที่เฉพาะเจาะจงได้ 
  • แสดงผลตามความสนใจ (Interest Targeting): ธุรกิจสามารถกำหนดให้โฆษณาแสดงกับผู้ชมที่มีความสนใจในหัวข้อหรือสินค้าที่ธุรกิจต้องการโปรโมตได้ 
  • แสดงผลตามพฤติกรรม (Behavioral Targeting): ธุรกิจสามารถกำหนดให้ Google Display Specs แสดงกับผู้ชมที่มีพฤติกรรมการท่องเว็บที่สอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจได้
  • การแสดงผลตามกลุ่มเป้าหมาย (Audience Targeting): ธุรกิจสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายของตนเองได้โดยใช้ข้อมูลประชากรศาสตร์ ความสนใจ และพฤติกรรมของผู้ชม 

ประโยชน์ของ Google Display Ads ในการทำธุรกิจ

Google Display Network (GDN) ให้ข้อดีหลายประการสำหรับผู้ลงโฆษณาออนไลน์ เช่น

1. เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น: GDN เข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 90% ทั่วโลก ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับผู้ชมจำนวนมากบนเว็บไซต์ แอป และแพลตฟอร์มต่าง ๆ

2. เลือกกลุ่มเป้าหมายได้ตามต้องการ: Google มีตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายขั้นสูงเพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ชมที่คุณต้องการ หรือรีมาร์เก็ตติ้งที่เฉพาะเจาะจงไปยังผู้ใช้งานที่เคยเข้ามาดูเว็บไซต์ของคุณมาก่อนได้

3. สร้าง Brand Awareness: GDN ช่วยให้คุณสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ได้จริง เมื่อผู้ใช้งาน Google เห็นโฆษณาขณะที่เข้ามาใช้ Google ก็จะค่อย ๆ เริ่มจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น และเมื่อเห็นจนบ่อยมากขึ้นก็จะเกิดความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในที่สุด

4. ประหยัดต้นทุน: GDN เสนอตัวเลือกการโฆษณาที่คุ้มค่า เช่น ราคาต่อหนึ่งคลิก (CPC) หรือราคาต่อการแสดงผลพันครั้ง (CPM) ทำให้คุณสามารถควบคุมงบประมาณและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้

GDN VS SEM แตกต่างกันอย่างไร?

Google Display Network เหมือนกับการเอาป้ายโฆษณาไปติดไว้ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ให้คนเห็น ในขณะที่ SEM เหมือนกับการจ่ายเงินให้ Google แสดงโฆษณาของคุณที่ด้านบนของผลการค้นหา (Google SERP)

ตัวอย่าง

ถ้าคุณเป็นเจ้าของร้านขายรองเท้า คุณสามารถใช้ Google Display Network เพื่อติดป้ายโฆษณารูปรองเท้าของคุณไว้ตามเว็บไซต์แฟชั่นที่เป็น Google Display Network Partner Sites List

และคุณยังสามารถใช้ SEM เพื่อจ่ายเงินให้ Google แสดงโฆษณาข้อความของคุณในส่วนของด้านบนของผลการค้นหา เมื่อมีคนค้นหาคำหลัก เช่น “รองเท้าใหม่” หรือ “รองเท้าลดราคา” เป็นต้น

Google Search กับ Google Display Network แตกต่างกันอย่างไร?

Google Search และ Google Display Network เป็นเครื่องมือการตลาดออนไลน์ของ Google ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ แต่มี ความแตกต่างที่สำคัญบางประการ ดังนี้

  • ประเภทโฆษณา: Google Search รองรับเฉพาะโฆษณาแบบข้อความ ในขณะที่ Google Display Network รองรับโฆษณาแบบรูปภาพ วิดีโอ และข้อความ
  • ตำแหน่งโฆษณา: Google Search แสดงโฆษณาในผลการค้นหาของ Google ในขณะที่ Google Display Network แสดงโฆษณาบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทั่วโลก
  • วัตถุประสงค์: Google Search เหมาะสำหรับการกระตุ้นให้เกิด Conversion ในขณะที่ Google Display Network เหมาะสำหรับการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และกระตุ้นให้เกิด Conversion

นอกจากนี้แล้วการทำ Google Shopping Ads ก็สามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าออนไลน์ได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากคุณเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจและยังไม่อยากทุ่มงบประมาณไปกับการทำโฆษณา บางทีการทำ SEO อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า >>วิธีสร้าง Traffic หลักแสน โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ SEO แพง ๆ <<

GDN เหมาะกับใคร ทำไมควรใช้โฆษณาตัวนี้?

Google Display Network เหมาะกับธุรกิจทุกประเภทที่ต้องการเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ โดยสามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน เนื่องจาก GDN เข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 90% ทั่วโลก 

โฆษณาของธุรกิจนั้น ๆ จะปรากฏขึ้นบนเว็บไซต์ต่างๆ ที่ผู้ใช้กำลังเข้าชมอยู่แล้ว และสามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาตามปัจจัยต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่น ความสนใจ พฤติกรรม และข้อมูลประชากร 

สรุปการใช้งาน Google Display Network (GDN)

GDN เป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้สูง ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาของตนได้ตามความสนใจ พฤติกรรม หรือข้อมูลประชากรของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าโฆษณาจะปรากฏต่อผู้ชมที่มีโอกาสสนใจมากที่สุด

แต่เหนือสิ่งอื่นใด การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยความรู้และความเชี่ยวชาญจากหลาย ๆ ด้านประกอบกัน โดยเฉพาะความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ >>12 Content Marketing ฉบับใช้จริง ทำให้แบรนด์ธุรกิจติด TOP<<

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google Display Network

ข้อดีของ Google Display Network มีอะไรบ้าง?

– เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง
– สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์
– กระตุ้นให้เกิด Conversion

ความแตกต่างระหว่าง Google Display Network กับ Google Discovery Ads คืออะไร?

Google Display Network เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้าง ส่วน Google Discovery Ads เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าหรือบริการ

ค่าใช้จ่าย Google Display Network เท่าไร?

ค่าใช้จ่าย Google Display Network ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าแคมเปญของผู้ลงโฆษณา