SEO ย่อมาจากอะไร SEO ทำยังไง ประโยชน์ของการทำ SEO 2024

การทำเว็บไซต์นั้นจำเป็นกับธุรกิจออนไลน์ เป็นเสมือนหน้าร้านของคุณ แต่จะทำอย่างไรให้เว็บไซต์ถูกค้นพบได้ง่าย คำตอบคือ การทำ SEO นั่นเอง กระบวนการทำ SEO นั้น จะช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์หรือธุรกิจของคุณมากขึ้น แต่จะเริ่มทำ SEO ทำยังไง SEO ย่อมาจากอะไร SEO คืออะไร สำคัญอย่างไร มาไขคำตอบกัน!

SEO ย่อมาจากอะไร 

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization แปลเป็นภาษาไทยว่า การปรับแต่งให้เหมาะสมกับเครื่องมือค้นหา กระบวนการทำ  SEO หมายถึง กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ เนื้อหา โครงสร้าง และองค์ประกอบต่างๆ บนเว็บไซต์ ให้ตรงกับเกณฑ์ของ Search Engine อย่าง Google, Bing, Yahoo ฯลฯ เพื่อเพิ่มโอกาสในการแสดงผลอันดับต้นๆ ในหน้าผลการค้นหา (SERP) เมื่อผู้ใช้ค้นหาด้วยคำหลักที่เกี่ยวข้อง

ทำไมธุรกิจถึงควรลงทุนทำ SEO จำเป็นกับธุรกิจอย่างไร?

การทํา  SEO คือ กลยุทธ์การตลาดที่ใช้เวลาแต่ให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน เนื่องจากเมื่อ Google ได้ทำการวัดดัชนี หรือ Index แล้ว จะทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏบนหน้า Google ตลอดไป เมื่อมีคนค้นหาคำหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของคุณ เว็บไซต์ธุรกิจของคุณก็จะแสดงบนหน้าค้นหาของ Google เท่ากับว่า เมื่อใดก็ตามที่เว็บไซต์ของคุณถูกเข้าชม ธุรกิจของคุณก็จะถูกโปรโมทไปด้วย แน่นอนว่า หากมีคนค้นหาจากคีย์เวิร์ดนั้นๆอีก เว็บของคุณก็ปรากฏอีก ทำให้กระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆวนๆ จนทำให้มีคนจำนวนมากเริ่มรู้จักและเกิดความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ ดังนั้นการลงทุนทำ SEO จึงเป็นเรื่องที่ควรทำในทุกๆธุรกิจ

การทำ SEO มีประโยชน์อย่างไร

1. เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์

SEO ช่วยให้เว็บไซต์มีโอกาสแสดงผลบนหน้าแรกของ SERP ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้คลิกลิงก์เข้ามาเว็บไซต์ของคุณ

2. เพิ่ม Conversion Rate

SEO ช่วยดึงดูดผู้ใช้ที่ค้นหาด้วยคำหลักที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ และผู้ใช้เหล่านี้มีโอกาสที่จะกลายเป็นลูกค้ามากกว่าผู้ใช้ทั่วไป

3. เพิ่ม Brand Awareness และ เพิ่มยอดขาย

เมื่อมีผู้ใช้งานเห็นเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น นั่นหมายความว่า Brand Awareness ก็เพิ่มขึ้นตาม ซึ่ง ultimately นำไปสู่การเพิ่มยอดขาย

4. สร้างความน่าเชื่อถือ

เว็บไซต์ที่มีอันดับ SEO ดี แสดงว่าเว็บไซต์นั้นมีความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้ตัดสินใจง่ายขึ้นหากสนใจติดต่อซื้อสินค้าและบริการ

5. ประหยัดงบโฆษณา

SEO เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณา เพียงแค่รู้เทคนิคการทำ SEO ที่ดี ก็สามารถเพิ่มให้ผู้ใช้พบเห็นและรู้จักธุรกิจของคุณมากขึ้นตาม

องค์ประกอบในการทำ SEO มีอะไรบ้าง

องค์ประกอบหลักในการทำ SEO แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้

1. On-Page SEO

On-Page SEO หมายถึง การปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ บนเว็บไซต์

  • Keyword Research: การค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ
  • Title Tag: ใส่ Keyword ใน Title Tag ของหน้าเว็บ
  • Meta Description: เขียน Meta Description ที่น่าสนใจ
  • Heading Tags: ใส่ Keyword ใน Heading Tags (H1, H2, H3)
  • Content: เขียนเนื้อหาที่ informative และ relevant
  • Image Optimization: ใส่ Alt Text ที่ดีให้กับรูปภาพ
  • URL: ใส Keyword ใน URL
  • Internal Linking: ใส่ Internal Link ไปยังหน้าเว็บอื่นๆ
  • Website Speed: ปรับแต่งเว็บไซต์ให้โหลดเร็ว

2. Off-Page SEO

Off-Page SEO หมายถึง การสร้าง Backlink จากเว็บไซต์อื่นมายังเว็บไซต์ของคุณ

  • Guest Blogging: เขียนบทความ Guest Blog บนเว็บไซต์อื่น
  • Social Media: แชร์เนื้อหาของคุณบน Social Media
  • Directory Submission: Submit เว็บไซต์ของคุณไปยัง Directory
  • Forum Posting: โพสต์ใน Forum ที่เกี่ยวข้อง
  • Press Release: เขียน Press Release เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณ

3. Technical SEO

Technical SEO หมายถึง การปรับแต่งโครงสร้างทางเทคนิคของเว็บไซต์

  • Website Structure: โครงสร้างเว็บไซต์ควรเข้าใจง่าย
  • Mobile Friendly: เว็บไซต์ควรใช้งานบน Mobile ได้
  • Sitemap: ส่ง Sitemap ไปยัง Google Search Console
  • Robots.txt: ปรับแต่ง Robots.txt
  • Schema Markup: ใส่ Schema Markup

วิธีทำ SEO ให้ติดหน้าแรก ปี 2024

1. เข้าใจหลักการ SEO

ศึกษาอัลกอริทึมของ Google ทำความเข้าใจ User Intent เรียนรู้เกี่ยวกับ On-Page SEO Off-Page SEO และ Technical SEO

2. ทำ Keyword Research

ค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ โดยสามารถใช้เครื่องมือหา Keyword ช่วยในการเลือก Keyword  เทคนิคคือ เลือกคียเวิร์ดที่มี Search Volume สูง และ Competition น้อย

3. ปรับแต่ง On-Page SEO

ปรับแต่ง On-Page SEO คือขั้นตอนการเขียนบทความ SEO สำหรับลงหน้าเว็บเพจ แนะนำว่าให้ใส่ Keyword ใน Title Tag เลย ควรเขียน Meta Description ให้น่าสนใจ ใส่ Keyword ใน Heading Tags (H1, H2, H3) เขียนเนื้อหาที่ informative และ relevant

สำหรับรูปภาพ ควรใส่ Alt Text ที่ดีให้กับรูปภาพ ใส่ Internal Link ไปยังหน้าเว็บอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้อยู่บนเว็บได้นานขึ้นและอย่าลืมตรวจสอบและปรับแต่งเว็บไซต์ให้โหลดเร็วด้วย

4. สร้าง Backlink

การสร้าง Backlink คือ การทำให้เว็บไซต์อื่นมีการลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา เปรียบเสมือนการโหวตจากเว็บไซต์อื่นๆ ว่าเว็บไซต์ของเรามีเนื้อหาคุณภาพ น่าเชื่อถือ ซึ่ง Google และ Search Engine อื่นๆ จะใช้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดในการจัดอันดับเว็บไซต์ เช่น เขียนบทความ Guest Blog บนเว็บไซต์อื่น แชร์เนื้อหาไปยัง Social Media  เขียน Press Release เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณ

5. ปรับแต่ง Technical SEO

ควรใส่ใจกับโครงสร้างเว็บไซต์ โดยทำให้เข้าใจง่าย เว็บไซต์ควรใช้งานบน Mobile ได้ เนื่องจากปัจจุบันคนใช้สมาร์ทโฟนกันเยอะมากขึ้น การตรวจสอบหน้า 404 Not Found และ URL อื่นๆของเว็บไซต์ เพื่อเช็กดูว่าเว็บไซต์มีประสิทธิภาพหรือไม่ การทำ SEO ควรปรับปรุงแก้ไขตรงไหนไหม แนะนำให้ใช้ Google Search Console เป็นเครื่องมือช่วย

ข้อดีของการจ้าง SEO Agency

สำหรับธุรกิจที่สนใจทำ SEO แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงแนะนำให้จ้าง SEO Agency เนื่องจาก SEO Agency มีประสบการณ์และความรู้ ความเข้าใจในอัลกอริทึมของ Google สามารถทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า เหตุผลทั้งหมดนี้จะช่วยให้ธุรกิจประหยัดเวลาและทรัพยากรไม่จำเป็นต้องฝึกอบรมพนักงานเอง ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องมือ SEO  Agency นั่นไม่เพียงแค่จัดทำ SEO แต่ยังสามารถติดตามผลลัพธ์และวิเคราะห์ข้อมูล SEO ได้ด้วย 

Funnel มีทีมงานที่ชำนาญ SEO ช่วยวางแผนให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ เราเน้นการสร้างลูกค้าแบบ Organic Traffic พาธุรกิจคุณติดหน้าแรก Google เพื่อสร้างยอดขายแบบยั่งยืน 

คำถามที่พบบ่อย

SEO (Search Engine Optimization) หมายถึงอะไร

SEO หมายถึง กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ เนื้อหา โครงสร้าง และองค์ประกอบต่างๆ บนเว็บไซต์ ให้ตรงกับเกณฑ์ของ Search Engine โดยเฉพาะ Google

Search Engine Optimization (SEO) คืออะไร ใช้งานอย่างไร

SEO คือเครื่องมือการตลาดที่ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ บนหน้าผลการค้นหา การใช้งาน SEO จำเป็นต้องศึกษาตั้งแต่อัลกอริทึมของ Google การทำ Keyword Research ไปจนถึง Technical SEO

การทำ SEO มีกี่แบบ

การทำ SEO มี 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ On-Page SEO, Off-Page SEO และ Technical SEO การทำ SEO ทั้ง 3 ประเภทนี้ควบคู่กันไป จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีขึ้นใน Google Search Results SEO ทํางานยังไง

SEO คืออะไร และสําคัญต่อการทําธุรกิจออนไลน์อย่างไร

การทํา SEO คือ กลยุทธ์การตลาดที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น นั่นหมายความว่า Brand Awareness ก็เพิ่มขึ้นตาม ซึ่ง ultimately นำไปสู่การเพิ่มยอดขาย

Similar Posts