Case study สายแฟชั่น คีย์เวิร์ด”แบรนด์เนม”แบบไหนที่ไม่ควรทำ

แนะนำคีย์เวิร์ดสายแฟชั่น นำไปใช้ต่อได้เลย!
สอนการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด

สำหรับใครที่กำลังจะทำ SEO คีย์เวิร์ดของกลุ่มแฟชั่นไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรืออะไรก็ตาม ผมมีคำแนะนำเล็กๆ(แต่ใช้ได้จริง) ที่จะช่วยคุณ “ไม่ทำ” บางอย่างก่อนที่จะจ้างคนทำ SEO ครับ

จากเคสที่ผมได้รับมอบหมายให้วิเคราะห์นั่นคือคีย์เวิร์ดประเภท Branding

คีย์เวิร์ดแบรนดิ้งคืออะไร?

คือคีย์เวิร์ดประเภทที่พูดถึงยี่ห้อของผลิตภัณฑ์ เช่น Nike, Adidas, MARC JACOBS, Gucci โดยคีย์เวิร์ดเหล่านี้ถ้าเป็นแบรนด์ที่ไม่ใช่ระดับโลก(ขอใช้คำนี้ละกันนะครับ) เรายังพอทำ SEO ได้ แต่ถ้าเป็นแบรนด์ที่ผมกล่าวมาข้างบนที่เป็นระดับโลกนั้นจะทำได้ยากหรือไม่สามารถทำได้เลย

เพราะอะไรเดี๋ยวเรามาดูกันครับ

คีย์เวิร์ดแบรนดิ้งแบบไหนที่ไม่สามารถทำได้?

คีย์เวิร์ดที่ทำได้ยากมาก คือ คีย์เวิร์ดที่ตัวเจ้าของเองกินส่วนแบ่งในหน้า 1 บนกูเกิ้ลทั้งหมด ผมยกตัวอย่างแบรนด์ MARC JACOBS ถ้าเราเสิร์จคำนี้ เราจะเห็นดังรูปด้านล่าง

อันดับที่ 1 เว็บไซต์หลัก

อันดับที่ 2 Wikipedia

อันดับ 3 เฟสบุ๊คหลักแบรนด์

อันดับ 4 Instragram หลักของแบรนด์

ส่วนอันดับ 5 เว็บไซต์ของเซ็นทรัล !!!

ถามคำเดียวเลย จะเอาที่ไหนไปสู้!!!!!

ดังนั้นจะเห็นแล้วว่าถ้าเราเจอแบรนด์ที่ครองตลาดหน้า 1 แบบนี้ ให้หันไปใช้คำอื่นดีกว่า (เดี๋ยวจะบอกว่าใช้อะไรได้บ้าง)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่คีย์เวิร์ดแบรนเนมทุกอันจะยากเสมอไปนะครับ ลองมาดูคีย์ที่ทำได้ง่าย(ในมุมมองผม)ดูบ้าง

คีย์เวิร์ดแบบไหนที่มีโอกาสสู้ได้ง่าย

เมื่อกี้เราเห็นคีย์เวิร์ดแบรนด์ที่ครองทุกแพลตฟอร์มบนกูเกิ้ลในหน้าแรก ดังนั้นในมุมมองผมที่รู้ว่าเราทุกคนสามารถทำคีย์แบรนด์นี้ติดอันดับในหน้า 1 ได้ นั่นก็คือคีย์เวิร์ดประเภทที่ มี Official แค่ 1-2 เว็บไซต์เท่านั้น

ยกตัวอย่างคีย์เวิร์ด KATE SPADE NEW YORK หากค้นหาในไทย จากรู้ด้านล่างถ้าลองเสิร์ชดูในอันดับ 4 เราจะเริ่มเห็นเว็บไซต์ที่เป็นของไทย เช่น LAZADA, Shopee เข้ามาแข่งขันในหน้าแรก

นี่แหละครับคือสิ่งสำคัญ !!!

จำไว้เลยครับว่าเว็บ Official ของเจ้าของ อย่าคิดไปสู้ แต่ถ้าเจอ Shopee, Lazada แปลว่าเรามีโอกาสแข่งขันในหน้านี้อยู่