Google Rankings อัปเดตกฎการติดหน้าแรก จาก Google ปี 2024!
Google Rankings การติดหน้าแรก SEO เป็นสาขาที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้ Google มีการอัปเดตอัลกอริธึมและอัปเดตกฎเป็นประจำ ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงปัจจัยการจัดGoogle Rankings ดังนั้นนักการตลาดดิจิทัลจึงจำเป็นที่จะติดตามการอัปเดตล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อให้ปรับปรุงในการจัดอันดับเว็บไซต์ให้สูงขึ้น
แม้ว่า Google จะอัปเดตปัจจัยการจัดอันดับ SEO หลายร้อยรายการ ในอัลกอริทึมการจัดอันดับปัจจุบัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการมองเห็นเว็บไซต์ โดยในบทความนี้จะมาแชร์ข้อมูล Google Ranking Factor อัปเดตกฎการติดหน้าแรก ฉบับปี 2024
Google Rankings คืออะไร
Google Rankings หรือ อันดับ Google หมายถึง ลำดับการแสดงผลของเว็บไซต์(website ranking) บนหน้าผลการค้นหา (SERP) ของ Google เมื่อผู้ใช้ค้นหาด้วยคำหลัก (keyword)
ปัจจัย ที่ส่งผลต่อ Google Rankings
หลักๆ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. ปัจจัย On-Page
On-Page SEO หมายถึง เทคนิคการปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณเอง เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนหน้าผลการค้นหา หลักการสำคัญ ของ On-Page SEO คือ การปรับแต่งเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บเพจให้มีความเกี่ยวข้องและใช้งานง่ายสำหรับทั้งผู้ใช้และ Search Engine
องค์ประกอบหลัก ของ On-Page SEO ประกอบด้วย
- เนื้อหา การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ น่าสนใจ ให้ข้อมูล ตรงประเด็น และใช้คำหลักที่เกี่ยวข้อง
- โครงสร้าง การจัดโครงสร้างเว็บไซต์ให้ชัดเจน ใช้งานง่าย มีการใช้หัวข้อ หัวข้อย่อย และการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ (Internal Linking)
- Technical SEO การปรับแต่งด้านเทคนิค เช่น ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ ความเป็นมิตรต่อมือถือ และการ Optimize รูปภาพ
- Meta Elements การเขียน Title Tag และ Meta Description ที่น่าสนใจ สื่อถึงเนื้อหาของเว็บเพจ และดึงดูดผู้ใช้ให้คลิกเข้ามา
2. ปัจจัย Off-Page
Off-Page SEO เป็นเทคนิคการทำ SEO ที่อาศัย ปัจจัยภายนอก เว็บไซต์โดยหลักการสำคัญคือ การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณในสายตาของ Search Engine
วิธีการ ของ Off-Page SEO ที่นิยมใช้ ได้แก่
- Backlink การสร้างลิงก์ (Link) จากเว็บไซต์อื่นๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ กลับมายังเว็บไซต์ของคุณ ยิ่งเว็บไซต์ที่ลิงก์มาหาคุณมีคุณภาพดี ก็ยิ่งส่งผลดีต่ออันดับเว็บไซต์ของคุณ
- Social Media การประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ของคุณบน Social Mediaต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) และดึงดูด Traffic เข้าสู่เว็บไซต์ของคุณ
- การตลาดเนื้อหา (Content Marketing) การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณภาพ เพื่อดึงดูดให้ผู้อื่นนำเนื้อหาของคุณไปเผยแพร่ต่อ (Share)
- Online Review การได้รับรีวิวที่ดีตามเว็บไซต์ต่างๆ ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
Google Ranking มีผลต่อการทำ SEO อย่างไร
Google Ranking มีผลต่อการทำ SEO อย่างมาก เพราะว่า Google Ranking นั้น เป็นตัวกำหนดว่า เว็บไซต์ของเราจะแสดงผลอยู่บนหน้าผลการค้นหาอันดับไหน เป็นตัววัดผลสำคัญสำหรับ SEO แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ SEO ของคุณมีประสิทธิภาพหรือไม่
โดยปกติแล้ว ผู้ใช้จะคลิกเข้าชมเว็บไซต์ที่อยู่บนหน้าแรกของ SERP มากกว่าเว็บไซต์ที่อยู่อันดับล่างๆ
ดังนั้น การทำ SEO จึงมุ่งเน้นไปที่การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตรงตามปัจจัยต่างๆ ของ Google Rankings เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแรก การทำ SEO จำเป็นต้องมีเนื้อหาที่มีคุณภาพ โครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี Backlinks ที่มีคุณภาพ และปรับแต่ง Technical SEO ให้เหมาะสม
ผลลัพธ์ของ Google Rankings มีผลต่ออะไรบ้าง?
จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
แน่นอนว่าอันดับที่สูงขึ้นใน Google Rankings ส่งผลต่อจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณโดยตรง เว็บไซต์ที่ติดอันดับต้น ๆ มักมีผู้เข้าชมมากกว่าเว็บไซต์ที่อยู่อันดับท้าย ๆ
การรับรู้แบรนด์
เว็บไซต์ที่ติดอันดับบนหน้าแรก มีโอกาสที่คนจะพบเห็นได้มากกว่า ทำให้สร้างการรับรู้แบรนด์ และมักถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือและเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจอีกด้วย
การเข้าถึงลูกค้า
Google Rankings ช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายที่กำลังมองหาสินค้าหรือบริการของคุณได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับสูงขึ้น ผู้คนจะสามารถค้นหาและเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ และเพิ่มโอกาสในการแปลงเป็นลูกค้า สามารถนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น
Conversion rate
เว็บไซต์ที่ติดอันดับต้นๆ มักมี Conversion rate ที่ดีกว่า หมายความว่ามีผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะดำเนินการตามที่คุณต้องการ เช่น ซื้อสินค้า สมัครสมาชิกหรือกรอกแบบฟอร์ม
เช็คอันดับเว็บ (Website Ranking) ยังไง
การเช็คอันดับเว็บ (Website Ranking) ทำได้ง่ายๆ คือ เปิด Google Chrome ในโหมดไม่ระบุตัวตน (Incognito Mode) ค้นหาคีย์เวิร์ดที่ต้องการ สังเกตอันดับเว็บของคุณบนหน้าผลการค้นหา (SERP) วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถูกรบกวนจากประวัติการค้นหาหรือการตั้งค่าส่วนตัวของคุณ หรือใช้เว็บจัดอันดับเพื่อติดตามผลลัพธ์และวิเคราะห์ผลการทำ SEO
Google Ranking Factor อัปเดตกฎการติดหน้าแรก จาก Google ปี 2024!
Google Ranking Factors คือ ปัจจัยที่ Google ใช้ในการจัดอันดับเว็บไซต์บนหน้าผลการค้นหา (SERP) นั้น มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ในปี 2024 Google ได้ทำการอัปเดต Ranking Factors โดยใช้หลักการ E-E-A-T มีปัจจัยสำคัญๆ ที่ควรทราบ ดังนี้
Engaging Content
เนื้อหาที่น่าสนใจยังเป็นปัจจัยหลักในอัลกอริทึมการค้นหาของ Google ปีที่ผ่านมาได้รับการยืนยันอย่างไม่ต้องสงสัยว่า Google ทดสอบเนื้อหาที่เผยแพร่ใหม่เพื่อดูว่าตอบสนองต่อจุดประสงค์ในการค้นหาของคำหลักได้ดีหรือไม่ การทำเนื้อหา YMYL จะได้รับการพิจารณาจาก Google ก่อน หากพฤติกรรมของผู้ค้นหาบ่งชี้ว่าได้รับความพึงพอใจจากเนื้อหาของหน้า ก็จะได้รับการส่งเสริมตามกฎทั่วไป AI ของ Google จะให้รางวัลเนื้อหาคุณภาพสูง โดยควรผลิตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง
Keywords ใน Title และ Meta Tags
การแทรกKeywordsลงในTitle และ Meta Tagsนั้นมีความสำคัญต่อการจัดอันดับ กลยุทธ์Keywords ต้องคำนึงถึงตำแหน่งและความถี่ในการแทรก ตามหลักการแล้ว TitleควรมีเฉพาะKeywordsที่ตรงเป้าหมายเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเพิ่มบทความและKeywords ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้อ่านง่าย
Freshness
SEO (Search Engine Optimization) ความสดใหม่ หมายถึง ความใหม่และความทันสมัยของเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณ ถึงแม้ว่าความสดใหม่จะเป็นปัจจัยที่อัลกอริทึมของ Google พิจารณาเสมอมา แต่ความสำคัญของมันก็เพิ่มมากขึ้นในช่วงปี 2024 Google พิจารณาว่าเนื้อหาที่ได้รับการอัปเดตใหม่ ๆ นั้นมีความเกี่ยวข้องกับคำค้นหาในปัจจุบันมากกว่า ซึ่งสมเหตุสมผลเพราะผู้ใช้มักต้องการข้อมูลล่าสุด ดังนั้น การอัปเดตหรือรีเฟรชเนื้อหาเป็นประจำด้วยข้อมูลหรือข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ สามารถช่วยปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาได้
Niche Expertise
Niche Expertise หมายถึง การที่เว็บไซต์เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับหัวข้อเฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์มุ่งเน้นไปที่ “การเลี้ยงดูสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์” จะมี Niche Expertise ในเรื่องนั้น เว็บไซต์จะมีเพจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ เช่น
- การเลือกสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
- การฝึกสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
- สุขภาพของสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
- อาหารสำหรับสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
เมื่อ Google ค้นหาผลลัพธ์สำหรับการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ เว็บไซต์นี้มีแนวโน้มที่จะปรากฏในอันดับต้น ๆ เนื่องจาก Google มองว่าเว็บไซต์นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น
Experience
ประสบการณ์ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของ E-E-A-T ซึ่ง Google ใช้ในการประเมินคุณภาพของเนื้อหาบนเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่มีประสบการณ์สูง มีแนวโน้มที่จะแสดงอันดับที่ดีกว่าในผลการค้นหา ผู้เขียนเนื้อหาควรมีความรู้และประสบการณ์ในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง แสดงผลงานที่ผ่านมา และรางวัลที่ได้รับ เนื้อหาควรน่าสนใจ อ่านง่าย และ informative และการรับฟัง feedback ของผู้ใช้ และปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้น จะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นผู้มีประสบการณ์และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเฉพาะ
Authoritativeness
ความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ SEO ซึ่งเป็นแนวคิดที่ Google ใช้ในการตัดสินคุณภาพของข้อมูลบนหน้าเว็บ ในแง่ของความเป็นเจ้าของผลงาน Google ต้องการเห็นว่าเนื้อหาบนหน้าเว็บนั้นถูกสร้างโดยแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ซึ่งหมายถึง ผู้เขียนเป็นบุคคลหรือองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในหัวข้อนั้น โดยทั่วไปแล้ว ควรแสดงชื่อและข้อมูลประจำตัวของผู้เขียนบนหน้าเว็บ เนื้อหานั้นเป็นต้นฉบับและผ่านการค้นคว้ามาอย่างดี แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนทุ่มเทความพยายามในการสร้างข้อมูลที่มีคุณค่า เว็บไซต์นั้นมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับ แสดงให้เห็นโดยมีชื่อเสียงที่ดี รีวิวในเชิงบวก และลิงก์จากเว็บไซต์อื่นๆที่มีคุณภาพสูง โดยการปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้ สามารถช่วยปรับปรุง Authoritativeness ของเนื้อหาของคุณ และอาจเพิ่มอันดับของคุณในผลการค้นหาของ Google
Trustworthiness
ความไว้วางใจ (Trustworthiness) เป็นปัจจัยสำคัญที่ Google พิจารณาในการจัดอันดับเว็บไซต์ โดย Google ต้องการมอบผลการค้นหาที่แม่นยำและเชื่อถือได้แก่ผู้ใช้ ดังนั้น เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือจะมีอันดับที่ดีกว่าในผลการค้นหา
ความไว้วางใจ ประกอบด้วย เนื้อหาที่มีคุณภาพ มีการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น บทความทางวิชาการ เว็บไซต์/สถาบันที่ได้รับการยอมรับ สร้างความโปร่งใสแก่ผู้ใช้โดยแสดงข้อมูลติดต่อ นโยบายความเป็นส่วนตัว และข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
Mobile-Friendly / User-Friendly
ทั้ง Mobile-Friendly และ User-Friendly เป็นแง่มุมที่สำคัญสำหรับการทำ SEO ให้สำเร็จของเว็บไซต์ ซึ่ง Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่ Mobile-Friendly ในผลการค้นหามากขึ้น เนื่องจากผู้ใช้ในปัจจุบันนิยมใช้มือถือ แท็ปเล็ตในการค้นหาข้อมูลและชื่นชอบความสะดวกสบาย การทำ Mobile-Friendly เน้นการทำให้เว็บไซต์แสดงผลและทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบบนอุปกรณ์มือถือ (สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต) องค์ประกอบสำคัญ คือ การออกแบบแบบ Responsive ที่ปรับเค้าโครงให้เหมาะกับขนาดหน้าจอ ตัวอักษรที่อ่านง่าย ปุ่มที่กดง่าย ความเร็วในการโหลดที่รวดเร็ว และการทำ User-Friendly เน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ทุกคน โดยไม่คำนึงถึงอุปกรณ์ที่ใช้ แต่จะคำนึงถึงการนำทางที่ชัดเจน อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เนื้อหาที่มีคุณค่า ข้อมูลที่ค้นหาได้ง่าย จะช่วยให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วม ลดอัตราตีกลับ และกระตุ้นให้ผู้ใช้ให้กลับมาอีกครั้ง
นอกจากกฎGoogle Ranking Factorที่อัปเดตดังกล่าวมาแล้ว การติดหน้าแรกของ Google ในปี 2024 นั้น ยังจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยเดิมๆด้วย ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี Backlink ที่มีคุณภาพ โปรโมท Social Mediaและการปรับแต่ง Technical SEOต่างๆ
มาทำ SEO ให้ติดบนหน้าแรกของ Google กับ Funnel!