Value Content คืออะไร สำคัญกับการทำธุรกิจแค่ไหน?
Value Content คือ เนื้อหา (คอนเทนต์) ที่มีค่าและมีประโยชน์สำหรับกลุ่มเป้าหมาย :ซึ่งมันสร้างความรู้สึกและคุณค่าให้กับผู้อ่านหรือผู้ชม และช่วยแก้ปัญหาหรือตอบคำถามของพวกเขาได้อีกด้วย
ในบทความนี้ Funnel.in.th จะพาทุกคนไปรู้จักว่า Value Content คืออะไรกันแน่? ต้องมีลักษณะแบบไหน สเปคแบบใดถึงเรียกว่าใช่! รวมไปถึงขั้นตอนในการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าด้วย จะมีขั้นตอนไหนบ้าง เลื่อนอ่านต่อได้เลย
Value Content ต้องมีลักษณะแบบไหน?
เราได้ทำความรู้จักกันไปแล้วว่า Value Content คืออะไร แต่ลักษณะที่บอกได้ว่าคอนเทนต์นั้น ๆ เป็น “คอนเทนต์คุณค่า” มีอะไรบ้างล่ะ เลื่อนอ่านต่อกันได้เลย
ลักษณะของ Value Content
- มีความถูกต้อง: คอนเทนต์ต้องมีแก่นสาระสำคัญที่ตรงกับความเป็นจริง ถูกต้องแบบ 100% เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดจากการที่คนที่เข้ามาดูนำไปใช้งานต่อไป
- มีความน่าเชื่อถือ: คอนเทนต์ต้องสามารถตรวจสอบได้ว่ามีความเป็นมาอย่างไรและมาจากแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ หรือมีการพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นความจริง
- แก้ปัญหาได้จริง: คอนเทนต์ต้องสามารถช่วยแก้ปัญหาของคนที่ได้ดูอย่างแท้จริง
- เข้าใจง่าย: คอนเทนต์ควรเข้าใจง่ายและไม่ซับซ้อน เพื่อให้ผู้อ่านหรือผู้ชมสามารถทำใช้ได้สะดวก
- อัปเดตล่าสุด: ควรมีการอัปเดตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันแบบ Realtime มากที่สุด
- แสดงผลสถิติ: การสนับสนุนเนื้อหาด้วยสถิติและข้อมูลหลักฐานจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้น
- สร้างความรู้สึกประทับใจ: สามารถสร้างความรู้สึกและประทับใจให้กับผู้อ่านหรือผู้ชมได้เป็นอย่างดี
Value Content ดีกับธุรกิจอย่างไร?
การที่ธุรกิจเลือกที่จะสร้าง Value Content ขึ้นมา นอกจากจะเป็นการส่งต่อสาระความรู้หรือเนื้อหาดี ๆ ไว้บนโลกออนไลน์แล้ว High Value Content ยังช่วยส่งเสริมธุรกิจในอีกหลายมิติ เช่น
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ: Value Content ช่วยสร้างความไว้วางใจและความเชื่อถือในธุรกิจของคุณ ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ดีและมันจะมีผลต่อการเลือกซื้อของลูกค้าคนอื่น ๆ ด้วย
- ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้น: Value Content สามารถช่วยให้ลูกค้ารู้จักธุรกิจของคุณได้ลึกซึ้งมากขึ้นได้
- ลูกค้ารู้สึกสนิทกับธุรกิจมากขึ้น: คอนเทนต์ดี ๆ เป็นเหมือนสิ่งที่มาช่วยเหลือลูกค้า ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งย่อมทำให้เขารู้สึก “ขอบคุณ” จนทำให้รู้สึกผูกพันกับธุรกิจของเรามากขึ้นได้อย่างไม่รู้ตัว
- ลูกค้าอยากซื้อสินค้า: Value Content สามารถกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ ได้เช่นเดียวกับการทำการตลาดรูปแบบอื่น ๆ
- เพิ่มความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาด: การสร้างคอนเทนต์ดี ๆ เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดและสามารถช่วยให้กลยุทธ์นั้นมีผลสัมฤทธิ์มากขึ้นตามไปด้วย
วิธีสร้าง Value Content ต้องทำยังไง?
วิธีการทำ Value Content คือการเริ่มทำความรู้จักกับลูกค้า (Customer Persona) ให้ครบถ้วน จากนั้นจึงตั้งเป้าหมายในการสร้างเนื้อหาต่อไป ตามขั้นตอนต่อไปนี้
วิจัยเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย
- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย (Customer Insight) เช่น เพศ, อายุ, ความชอบ, ไลฟ์สไตล์ และอื่น ๆ
- ศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มเป้าหมาย
ตั้งเป้าหมายของคอนเทนต์
- กำหนดวัตถุประสงค์ของการสร้าง Value Content อย่างชัดเจนว่าทำเพื่ออะไร เช่น เพื่อการโฆษณาสินค้า, เพื่อสร้าง Brand Awareness, เพื่อให้ความรู้ในการใช้สินค้ากับลูกค้า
- กำหนด Key Message ที่ต้องการสื่อไปยังลูกค้า เช่น โปรโมชั่น, วิธีใช้, วิธีแก้ปัญหา เป็นต้น
วางแผนการทำคอนเทนต์
- เลือกว่าจะทำคอนเทนต์รูปแบบไหน บทความ / วิดีโอ / รูปภาพ หรืออื่น ๆ
- เลือกว่าจะทำคอนเทนต์ลงแพลตฟอร์มไหนบ้าง เช่น YouTube, TikTok, Facebook
- วาง Outline ของการทำ Value Content ให้ชัดเจนว่าต้องมีหัวข้ออะไรบ้าง
- กำหนดวันที่ในกระบวนการสร้าง Value Content ให้ชัดเจน
เริ่มทำ Value Content
- เริ่มสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ตามแพลนที่ได้วางแผนเอาไว้
- ใส่ใจให้คอนเทนต์เป็นไปตามลักษณะของ Value Content ที่ดี
ปรับแต่งสำหรับ SEO
- ปรับเนื้อหาที่ทำให้ดีต่อการทำ SEO เพื่อให้ติดหน้า 1 Google หรือ แพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เลือก เช่นการทำ SEO Youtube
(อยากรู้จักกลยุทธ์การทำ SEO ต้องอ่าน: 38 แหล่งเรียนรู้ SEO มีที่ไหนบ้าง?)
เผยแพร่คอนเทนต์
- เผยแพร่คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มที่ได้เลือกเอาไว้
ประเมินผลและปรับปรุง
- ทำ Social Listening ในการวัดความพึงพอใจของลูกค้าหรือคนที่ได้ดูคอนเทนต์ ว่ายังมีจุดไหนที่ยังไม่โอเค หรือสามารถพัฒนาให้ดีมากกว่านี้หรือไม่
ได้รู้วิธีการทำ Value Content Marketing กันไปแล้ว เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น มาดู Value Content Examples ใน Case Study ต่อไปนี้กันดีกว่า
ตัวอย่างการใช้ Value Content
โฆษณาสองตัวนี้มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันแต่แตกต่างกันที่คอนเทนต์ คุณคิดว่าเมื่อนำมายิงโฆษณา ตัวไหนถูกกว่ากัน ?
คอนเทนต์ตัวที่ 1
คอนเทนต์ตัวที่ 2
คำใบ้เพิ่มเติม มีข้อมูล 2 ส่วนที่ผมอยากให้ลองพิจารณาครับ
1. ยอดไลก์ และ
2. ยอดแชร์
ส่วนอื่นขอให้เก็บไว้ก่อน ทีนี้คิดว่าคอนเทนต์ตัวไหนที่นำไปยิงโฆษณาแล้วถูกกว่ากันครับ (ลองคิดเล่น ๆ ก่อนดูเฉลยนะครับ)
คำตอบคือ ………………………….
คือโฆษณาตัวที่ 2 นั่นเอง !!!!
ค่าโฆษณาคอนเทนต์ตัวที่ 1
ค่าโฆษณาคอนเทนต์ตัวที่ 2
จากการทดสอบโดยยิงคอนเทนต์ไปหากลุ่มฟรีแลนซ์ จะเห็นยอดไลน์ในคอนเทนต์ที่ 1 มากกว่า 2 อยู่หลายเท่า ส่วนการแชร์ในคอนเทนต์ที่ 2 มากกว่าคอนเทนต์ที่ 1 ดังนั้นเราสามารถบอกได้ว่าคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ (Value) นั้น Facebook ให้ความสำคัญกับยอดแชร์ มากกว่าไลก์นั่นเอง เราสามารถจำแนกเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
1. Content ที่มี Value คือ คอนเทนต์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
สิ่งแรกที่จะทำให้คอนเทนต์เกิดคุณค่า (Value) ได้นั่นคือ การกำหนดคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้คอนเทนต์นั้นมีคุณค่าและคุณภาพมากยิ่งขึ้น
2. Content ที่มี Value ทำให้เกิดการแชร์ที่เยอะ
หลายครั้งการกดไลก์นั้นอาจหมายถึง ภาพสวย,เนื้อหาดี,กดเป็นมารยาท และอีกหลายเหตุผล ส่วนการกดแชร์นั้นส่วนใหญ่จะหมายถึงเนื้อหาที่ เป็นแรงบันดาลใจ,ให้คุณค่าแก่เรา,มีประโยชน์ หรือเก็บไว้เพื่อดูต่อภายหลัง
ดังนั้นการแชร์จึงมีความสำคัญที่มากกว่าการกดไลก์อย่างเห็นได้ชัด
3. Content ที่มี Value ทำให้ค่าโฆษณาถูกลง
เมื่อเกิดการแชร์ที่มากขึ้น ค่าโฆษณายิ่งถูกลง เพราะFacebook ชื่นชอบโฆษณาที่มีการแชร์เยอะ ๆ นั่นเอง
4. Content ที่มี Value ได้การมีส่วนร่วมที่มาก
สิ่งที่ได้ตามมาคือการเข้าถึงที่เพิ่มมาก ในงบประมาณที่ถูกลง
สรุป
สำหรับท่านที่มีความชำนาญในการยิงแอดอาจใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ค่าโฆษณาถูกลง ส่วนท่านใดที่เริ่มต้น ผมขอแนะนำให้ท่านโฟกัสในคอนเทนต์เป็นอันดับแรก เพราะคอนเทนต์ที่ดีจะช่วยการทำการตลาดได้มาก และได้ผลลัพธ์ที่ดีตามมาอีกด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า Content is king!!!