5 เคล็ดลับพิชิต Marketplace SEO ที่ห้ามมองข้าม
แม้ในยุคปัจจุบัน แพลตฟอร์มในการขายของออนไลน์จะเป็นสิ่งที่เห็นกันจนชินตาและเราใช้กันอย่างคุ้นเคยแล้วนั้น แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ยังคงพัฒนาให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นบนแอพพลิเคชันโซเชียลมีเดียก็ดี หรือ แอพลิเคชัน eCommerce ก็ดี ก็จะมีข้อโดดเด่นที่ต่างกันออกไป ทำให้ช่วงเวลาที่ผ่านมา Marketplace เหล่านี้เป็นที่นิยมและมีอิทธิพลต่อชีวิตของเราเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม นอกจาก Marketplace จากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว สิ่งที่ทุก ๆ คนควรรู้จักนั่นคือ “Marketplace SEO” สิ่งที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงานของ Marketplace บน Google ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งนี้ยังมีความมั่นคงในระยะยาวด้วย ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพิชิตเป้าหมายดังกล่าวด้วย 5 เคล็ดลับที่หลาย ๆ คนไม่ควรมองข้าม
Marketplace SEO คืออะไร?
Marketplace SEO คือการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาของตลาดออนไลน์ เป็นกระบวนการที่ใช้ใน การเพิ่มประสิทธิภาพตลาดสำหรับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยการใช้หลักการ SEO แบบมาตรฐานเพื่อการทำ Marketplace SEO นั้นถือเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในอุตสาหกรรม SEO ที่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ในการทำด้วยเช่นกัน
ซึ่งในกรณีสำหรับนักทำ SEO บางคน ที่มีความคุ้นเคยกับการทำงานกับ Marketplace มาแล้ว และมีประสบการณ์ในการทำงานเกี่ยวกับ SEO สำหรับ eCommerce SEO ก็จะถือว่าเป็นข้อได้เปรียบมาก ๆ เพราะ eCommerce SEO นั้น ค่อข้างใกล้เคียงกับ Marketplace SEO นั่นเอง แม้ว่า Marketplace จะใช้ฟังก์ชันการซื้อ-ขายบางรูปแบบ ที่มักจะแตกต่างไปจากไซต์อีคอมเมิร์ซก็ตาม
ตัวอย่างความคล้ายคลึงกันของ eCommerce SEO กับ Marketplace SEO นั้น คือ การใช้หน้า category เพื่อแสดงรายการสินค้า หน้าของการรีวิวต่าง ๆ และฟังก์ชันการชำระเงิน อย่างไรก็ดี สำหรับฟังก์ชันการชำระเงินนั้น สำหรับอีคอมเมิร์ซจะมีฟังก์ชันนี้ในฝั่งของผู้ซื้อสินค้าเท่านั้น เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ที่เจ้าของแบรนด์หรือู้ประกอบการพัฒนาขึ้นมาเอง ในขณะที่ Marketplace ผู้ซึ่งเป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีฟังก์ชันการชำระเงินสำหรับทั้งสองฝั่งเพื่อให้สะดวกมากขึ้น
ตัวอย่าง Marketplace ที่สายการตลาดออนไลน์ควรรู้จัก
สำหรับคนไทยนั้น Marketplace ที่จะคุ้นเคยกันดีคือ Shoppee และ Lazada แต่ต้งบอกก่อนว่ามันมีมากกว่าที่เราคิดมาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น
Tripadvisor : ตลาดท่องเที่ยวและการจองโรงแรม
Fastwork : ให้บริการ Outsource ในการงานประจำวัน
Pets4Homes : ตลาดสัตว์เลี้ยง
AutoGuru : ตลาดจองรถยนต์
ซึ่งทุกคนจะเห็นได้ว่า Marketplace แต่ละตัวนั้นจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของสินค้าและบริการอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถือเป็นข้อดีที่ Marketplace แต่ละที่จะเป็นตัวกลางของผู้ซื้อและผู้ขายในสินค้าและบริการที่ต่างกันเพราะในแง่ของการตลาดนั้น การทราบถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนคือเรื่องที่สำคัญนั่นเอง
5 เคล็ดลับพิชิต Marketplace SEO ที่ช่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
และจากที่กล่าวมาทั้งหมด ก็มาส่วนสำคัญที่ทุกคนรอคอยนั่นคือ เคล็ดลับ 5 อันดับแรกของ Key สำคัญในการปรับปรุงระบบ SEO สำหรับ Marketplace ที่ใช้ในแต่ละด้านเพื่อให้บรรลุผลและสำเร็จในระยะยาวสำหรับ Google Search Engine จะมีอะไรบ้างนั้นตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน
1.หน้ารายการสินค้า / เนื้อหา (Listing Page)
สำหรับวงการ Marketplace หน้าสินค้า หรือ Listing page นั้นถือเป็นหน้าที่สำคัญมาก ๆ เพราะถือว่าเป็นส่วนที่มี scale ค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งมีผลต่อการทำ Marketplace SEO ด้วย เนื่องจากหน้าดังกล่าวมักจะเป็นหน้าที่เรียกว่า User-generated Content หรือ UGC คือเนื้อหาคอนเทนต์ทุกประเภทที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่าผู้บริโภคตัวจริงและมีความเกี่ยวข้องกับสินค้า บริการหรือแบรนด์ของต่าง ๆ โดยตรงนั่นเอง
ซึ่งสิ่งที่ Marketplace ส่วนใหญ่มักทำคือการเพิ่ม noindex meta tag ลงบนหน้าสินค้าดัง
กล่าวเพราะจากเหตุผลที่ว่ามักจะมี UGC และอาจส่งผลให้ Google อาจจะเข้ามาตรวจหรือจับหน้าดังกล่าวได้เสมอไป
เคล็ดลับ: หากใครกำลังจะเพิ่ม noindex meta tag ในหน้ารายการสินค้าดังกล่าว สิ่งสำคัญคืออย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้ารายการสินค้าเหล่านี้ไม่ได้ถูกบล็อกในไฟล์ robots.txt เพราะหากเป็นเช่นนั้น noindex meta tag ของเราอาจหายไปเนื่องจาก Google ไม่ได้รวบรวมข้อมูลหน้าเหล่านั้นนั่นเอง
**ยกเว้นในกรณีที่ไฟล์ robots.txt ป้องกันการรวบรวมข้อมูล (crawl) ไม่ใช่การจัดทำดัชนี (index) จาก Google แต่ถึงกระนั้นก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น ความถี่และจำนวนสินค้าของแต่ละหน้า ฯลฯ
2.User-generated Content
จากที่กล่าวไปข้างต้น User-generated Content หรือ UGC คือเนื้อหาคอนเทนต์ทุกประเภทที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่า User ที่เข้ามาใช้งานและมีความเกี่ยวข้องกับสินค้า บริการหรือแบรนด์ของคุณโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นโพสต์รีวิวสินค้าบน Facebook ภาพถ่ายคู่กับสินค้าที่ถูกโพสต์ลงใน Instagram ทวีตต่าง ๆ บนเว็บไซต์อย่าง Twitter จนไปถึงบทความและกระทู้บนเว็บบอร์ดทั่วไป
ซึ่งจากข้อมูลข้างต้น เมื่อพูดถึง UGC ก็สามารถอนุมานได้ว่ามันคือพื้นที่ของการสร้างเนื้อหาที่สามารถสร้างความแตกต่างที่มีความหมายให้กับประสิทธิภาพ Marketplace SEO ได้เลยทีเดียว
เนื่องจาก UGC เป็นเนื้อหาที่มีความแตกต่างโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะเป็นการแสดงความคิดเห็นของผู้ใช้งานตัวจริง และยังเปิดโอกาสให้ Marketplace สร้างความแตกต่างจากพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้อีกด้วย โดยสำหรับ UGC ส่วนใหญ่มักมีเนื้อหาเป็นบทวิจารณ์ พร้อมด้วย UGC อื่น ๆ เช่น รูปภาพ คำอธิบาย โฆษณา การรีวิว ฯลฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถส่งผลต่อ SEO ได้อีกด้วย
เคล็ดลับ: สำหรับนักทำ SEO สามารถนำรูปจาก UGC มาเป็นส่วนหนึ่งของหน้ารายการสินค้า(Listing Page) ได้ โดยเฉพาะรูปภาพที่มีข้อความการรีวิวที่ดูมีแนวโน้มว่าจะเป็น Main Keyword ของการค้นหาจาก User ได้ ยกตัวอย่างจากภาพด้านบน ซึ่งเป็น Listing Page จาก Swimply (บริการให้เช่าสระน้ำ/จัดปาร์ตี้บริเวณสระน้ำ) ที่นำ UGC ที่มีข้อความรีวิวว่า “rent a pool for a birthday party” ทำให้รูปดังกล่าวสามารถติดอยู่ในส่วนของ SEO Image และสามารถถูกค้าหาจาก User และเข้าถึง Listing Page ได้ง่ายขึ้น
3.กลยุทธ์เนื้อหาที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่น(Local SEO)
คือการปรับเนื้อหาให้ตรงกับพื้นที่ในแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ โดยการทำ Marketplace SEO นอกเหนือจากแพลตฟอร์มเหล่านี้จะสามารถตีกลุ่มเป้าหมายด้วยเนื้อหาแบบภาษาถิ่นหรือเนื้อหาแต่ละพื้นที่ได้แล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะถูกจัดอันดับจากข้อความค้นหา คำว่า “ใกล้ฉัน” ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นแนวทางที่นักทำ SEO หลาย ๆ คนนำมาใช้และกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา แม้ว่าคนทำด้าน SEO อีกหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าคำเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ หรือปรับให้เหมาะสมได้ก็ตาม
เช่นตัวอย่าง SpotHero (ผู้พัฒนาแอพฯ ค้นหาที่จอดรถ) ถูกจัดอันดับด้วยเนื้อหาที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นสำหรับเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาสำหรับการค้นหาเกี่ยวกับที่จอดรถ วิธีการที่พวกบริษัทนี้ใช้คือ การรวมรูปแบบ “ใกล้ฉัน” เข้ากับหน้าเมือง (แทนที่จะแยกกัน)
ซึ่งจะเห็นได้ว่าวิธีนี้ได้ผลดีมาก และทำให้ SpotHero ถูกจัดอันดับสูงสุดสำหรับข้อความค้นหา เช่น “ที่จอดรถ nyc” และข้อความค้นหาแข่งขันด้วยรูปแบบ “ใกล้ฉัน” เช่น “โรงจอดรถใกล้ฉัน” เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เนื้อหาที่นำเสนอบนหน้าที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นนั้นมีความสำคัญสูงมาก เนื่องจากทั่วไปแล้วจะภาษาถิ่นจะสอดคล้องกับ Main Keyword ที่มี Search Volume มากที่สุดในพื้นที่นั้น สิ่งสำคัญคือต้องประเมินว่าข้อมูลที่ไซต์ของเราเลือกมาใช้ มีคุณภาพสูงกว่าคู่แข่งของเราหรือไม่
4. ลดการ Exclude Pages ให้น้อยที่สุด
โดยธรรมชาติแล้ว แม้ Marketplace จะมีความสามารถที่จะขยายขนาดตามประเภทของหน้าต่าง ๆ ในไซต์ได้ แต่ก็ต้องตามมาด้วย การ monitor และตรวจสอบการ Exclude Pages อยู่เสมอ
โดยการประเมินและตรวจสอบ Exclude Pages และไม่ได้ Index นั้น มีวิธีการดูที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือผ่าน Google Search Console ภายในแท็บ ‘หน้าเว็บ’ หรือ Page นั่นเอง
โดยสำหรับ Marketplace เราสามารถประเมินการ Exclude Pages ตามประเภทเพจได้ โดยการตรวจสอบโฟลเดอร์ย่อยแยกกันใน GSC หรือทำการประเมินผ่านเมนูแบบเลื่อนลงของแผนผังไซต์ ซึ่งหากตั้งค่าอย่างถูกต้องก็จะตรวจสอบได้ง่ายตามไปด้วย
และหากมี Exclude Pages จำนวนมากที่จัดอยู่ใน Category “รวบรวมข้อมูลแล้ว – ยังไม่ได้จัดทำดัชนี” หรือ “ค้นพบแล้ว – ยังไม่ได้จัดทำดัชนี” นั่นอาจหมายถึงเว็บไซต์ของเราอาจประสบปัญหาด้านคุณภาพของเนื้อหาก็เป็นได้ ดังนั้น นักทำ SEO ควรตรวจสอบให้ดี เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขได้อย่างถูกจุด
5.เนื้อหาหน้าหลัก
ในฐานะที่เป็นจุดสุดท้ายที่เรียกได้ว่าเสาหลักในการทำ Marketplace SEO ดังนั้น หน้านี้ควรใช้เนื้อหาที่ให้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยวางตำแหน่งไซต์ในการหัวข้อและทำหน้าที่เป็นส่วนสนับสนุนสำหรับประเภทเพจต่าง ๆ ในไซต์ให้เป็นระบบมากขึ้น
ตัวอย่างเช่นTrustedHousesitters ตลาดสำหรับการดูแลสัตว์เลี้ยงระดับโลกที่ได้ทำการใช้กลยุทธ์เนื้อหาหลักที่ให้ข้อมูอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้หน้านั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว โดย พวก TrustedHousesitters มีวิธีการคือแบ่งเนื้อหาบล็อกออกเป็นโฟลเดอร์ / category แยกย่อยกันออกไปอีกในหน้าหลักนั่นเอง
ด้วยวิธีการนี้ในการจัดหมวดหมู่เนื้อหาที่ให้ข้อมูลได้ชัดเจนมากขึ้น และทำให้หัวข้อต่าง ๆ ชัดเจนตามไปด้วย ทั้งนี้ ก็ยังทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์สำหรับกลุ่มเนื้อหาต่าง ๆ ผ่านการจัดกลุ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้องใน URL ต่อนักทำ SEO ด้วย
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 5 เคล็ดลับนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งประสบการณ์ของนักทำ SEO และนักการตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถหากลยุทธ์ต่าง ๆ นี้ด้วยตนเองได้อีก โดยจะมีความแตกต่างกันออกไป ท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเคล็ดลับต่าง ๆ ดังกล่าวจะเป็นตัวตั้งต้นให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะสามารถต่อยอดในการทำ SEO ต่อไปได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพในระยะยาว