Lead Generation คืออะไร กลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างผลกำไรให้ธุรกิจ
เมื่อต้องการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ การทำ Lead Generation Digital Marketing ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดี Lead Generation คือ กลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างผลกำไรให้ธุรกิจได้อย่างที่ประสิทธิภาพ ในบทความนี้ได้รวบรวมเทคนิคเฉพาะและขั้นตอนการทำ Lead Generation Service ด้วยการทำ SEO มาฝากทุกคนได้อ่านกัน
Lead Generation คืออะไร?
Lead Generation คือ กระบวนการดึงดูดผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า (Lead) ให้แสดงความสนใจในสินค้าหรือบริการของเรา และทิ้งข้อมูลติดต่อไว้ เพื่อนำไปสู่การขายในอนาคต เปรียบเสมือนการ “ตกปลา” ดึงดูดปลา (Lead) ให้เข้ามาติดเบ็ด
Lead เปรียบเสมือน “ว่าที่ลูกค้า” ที่แสดงความสนใจในสินค้าหรือบริการของธุรกิจ มีโอกาสพัฒนาเป็นลูกค้าจริงได้สูงกว่าคนทั่วไป
Lead สำคัญอย่างไร ทำไมธุรกิจถึงต้องการ
Lead สำคัญต่อธุรกิจ เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และวัดผลได้ Lead ที่ดีมีโอกาสกลายเป็นลูกค้ามากกว่าคนทั่วไป เพราะพวกเขาแสดงความสนใจในสินค้าหรือบริการของเราอยู่แล้ว ทำให้ธุรกิจมีโอกาสปิดการขายได้ง่ายกว่า Lead Generation ช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มคนที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการของเราโดยตรง ไม่ต้องเสียเวลาและทรัพยากรไปกับกลุ่มคนทั่วไป ช่วยให้เราเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าตั้งแต่เนิ่นๆ เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย และยังช่วยให้เราสามารถวัดผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาดได้อย่างแม่นยำ
รู้ได้อย่างไรว่า Lead ไหนมีโอกาสปิดการขายได้มาก
1. พฤติกรรมของ Lead
Lead ที่มีส่วนร่วมกับเนื้อหาของเรา เช่น กดไลค์ แชร์ คอมเมนต์ หรือดาวน์โหลดเอกสาร มีโอกาสปิดการขายมากกว่า Lead ที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราหลายๆ หน้า แสดงว่าพวกเขามีความสนใจในสินค้าหรือบริการของเรา
การคลิกลิงก์ในอีเมลหรือ Landing Page ของ Lead เป็นตัวบอกว่าพวกเขากำลังมองหาข้อมูลเพิ่มเติม
2. ข้อมูลประชากร
Lead จากบริษัทขนาดใหญ่มีโอกาสใช้จ่ายมากกว่า Lead จากบริษัทขนาดเล็ก Lead ที่อยู่ในตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเรามีโอกาสปิดการขายมากกว่า
3. คะแนน Lead
Lead Scoring คือ กระบวนการวิเคราะห์และให้คะแนน “Lead” หรือ ลูกค้าเป้าหมาย แต่ละราย โดยพิจารณาจากพฤติกรรมและข้อมูลประชากร ความเป็นไปได้ ที่พวกเขาจะกลายเป็นลูกค้า เป้าหมายหลัก ของ Lead Scoring คือ จัดลำดับความสำคัญ ของ Lead เพื่อให้ทีมขายสามารถมุ่งความสนใจไปที่กลุ่มที่มีโอกาสปิดการขายได้สูง Lead ที่มีคะแนนสูงมีโอกาสปิดการขายมากกว่า
4. แหล่งที่มาของ Lead
แหล่งที่มาของ Lead หมายถึง ช่องทางต่างๆ ที่ทำให้ธุรกิจได้มาซึ่งข้อมูลติดต่อของลูกค้าเป้าหมาย หรือ Lead ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ ช่องทางออนไลน์ (Online Channels) อย่าง เว็บไซต์ หน้า Landing Page ที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูด Lead และโซเชียลมีเดีย Lead จากเว็บไซต์ของเรา หรืออีเมล มีโอกาสปิดการขายมากกว่า Lead จากโซเชียลมีเดีย
5. ระยะเวลาในการตอบสนอง
การตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อ lead นั้นมีความสำคัญมาก เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายLead ที่ได้รับการตอบสนองจากทีมขายอย่างรวดเร็วมีโอกาสปิดการขายมากกว่า
กลยุทธ์วิธีการทำ Lead Generation Digital Marketing สร้างยอดขายให้ธุรกิจ
1. Content Marketing
Content Marketing กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในยุคดิจิทัล ธุรกิจที่ใช้ Content Marketing อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย สร้างความสัมพันธ์ และผลักดันให้เกิด Conversion กลายเป็นยอดขายได้ ด้วยการสร้างบทความ informative บทความแนะนำ บทความรีวิว วิดีโอแนะนำสินค้า วิดีโอสอนใช้งาน หรืออีเมลแจ้งข่าวสาร แจ้งโปรโมชั่นต่างๆกลไกของ Content Marketing คือ
- ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย: เนื้อหาที่น่าสนใจและตรงกับความต้องการ จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาหาแบรนด์
- สร้างความรู้จัก: เนื้อหาที่ให้ความรู้และสร้างความประทับใจ จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
- สร้างความสัมพันธ์: เนื้อหาที่ช่วยแก้ปัญหาและตอบคำถาม จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมาย
- กระตุ้นการตัดสินใจ: เนื้อหาที่กระตุ้นความสนใจและโน้มน้าวใจ Call To Action (CTA) จะช่วยผลักดันให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อ
2. Search Engine Optimization (SEO)
SEO เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย สร้างความสัมพันธ์ และผลักดันให้เกิด Conversion กลายเป็นยอดขาย ธุรกิจที่ใช้ SEO อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ บน SERP ย่อมมีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น ส่งผลให้จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์เพิ่ม โดยเน้นดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้าหรือบริการด้วยเนื้อหาบนเว็บไซต์สามารถโน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อ กลยุทธ์ SEO ต้องทำทั้ง On-Page SEO คือปรับแต่งเนื้อหา โครงสร้าง และเทคนิคต่างๆ บนเว็บไซต์ให้เหมาะกับ SEO และ Off-Page SEO หรือการสร้าง Backlink จากเว็บไซต์อื่น ๆ กลับมายังเว็บไซต์ของเรา
3. Pay-Per-Click (PPC) Advertising
Pay-Per-Click (PPC) Advertising เป็นรูปแบบโฆษณาออนไลน์ที่ผู้ลงโฆษณาจะเสียเงินก็ต่อเมื่อมีคนคลิกโฆษณาของเรา โฆษณา PPC แสดงผลต่อกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้าหรือบริการ นำเสนอข้อความที่กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายคลิกโฆษณาLanding Page ที่ดี นำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย แพลตฟอร์ม PPC ยอดนิยม คือ Google Ads Facebook Ads และ Tiktok Ads เป้าหมายในการทำ PPC คือ เพิ่มจำนวน Lead ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้าหรือบริการ กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อ ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและจดจำ เพิ่มความผูกพันกับลูกค้า
Pay-Per-Click (PPC) Advertising ที่มีต้องกำหนดงบประมาณ PPC ที่เหมาะสม เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับสินค้าหรือบริการ เขียนโฆษณาที่ดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้คลิก ออกแบบ Landing Page ที่น่าสนใจและนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
Shopping Ads สร้างยอดขายให้แบรนด์เติบโตจาก Lead Generation ติดต่อเรา
4. Email Marketing
Email Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ใช้ Email ในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อสร้าง Lead เพิ่ม ยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า Email Marketing มีหลักการทำงาน คือ สร้างรายชื่อผู้รับ Email รวบรวม Email ของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เขียน Email ที่น่าสนใจเนื้อหาต้องตรงใจ มีวิธีกระตุ้นยอดขายโดยให้คลิก ส่ง Email ในเวลาที่เหมาะสม เลือกเวลาที่ลูกค้ามีแนวโน้มเปิด Email มากที่สุด Email Marketing มีทั้งEmail แจ้งข่าวสาร Email ต้อนรับ แนะนำสินค้าหรือบริการ Email ทิ้งตะกร้า Email มอบส่วนลดพิเศษ ควรเลือกทำในแบบที่เหมาะกับธุรกิจ Email Marketing คาดหวังเรื่องเพิ่มจำนวน Lead ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้าหรือบริการ กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อ เพิ่มความผูกพันกับลูกค้า การทำ Email Marketing ควรใส่ใจกับรายชื่อผู้รับ Email ที่ถูกต้อง ออกแบบ Email ให้สวยงาม อ่านง่าย ดูสบายตา
เครื่องมือช่วยการทำ Lead Generation
1. HubSpot CRM
HubSpot CRM คือเครื่องมือซอฟต์แวร์สำหรับบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ที่มีชื่อเสียง ใช้งานง่าย ช่วยจัดการลีด (Lead) เก็บข้อมูล ติดตามความเคลื่อนไหว และ บันทึกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าเป้าหมาย ติดตามความคืบหน้า ดูภาพรวมของกระบวนการขาย ติดตามสถานะของดีล และ ประเมินโอกาสในการปิดการขาย วิเคราะห์ผลลัพธ์: ดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการทำ Lead Generation ช่วยให้คุณปรับปรุงกลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้น HubSpot CRM มีทั้ง แบบฟรี ที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และแบบเสียเงินที่มีฟีเจอร์เพิ่มเติม เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเครื่องมือ CRM ที่ครอบคลุมมากขึ้น
2. Zoho CRM
Zoho CRM ก็เป็นเหมือน HubSpot CRM คือระบบ CRM ยอดนิยมอีกตัวที่ใช้งานได้ง่าย โดย Zoho CRM เน้นไปที่ฟีเจอร์ที่ครบครัน เพื่อช่วยให้คุณบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์และปิดการขายได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสร้าง Landing Page Zoho CRM ช่วยให้คุณสร้างหน้า Landing Page เพื่อดึงดูดและเก็บข้อมูลลูกค้าเป้าหมายได้ง่าย Email Marketing Zoho CRM มีเครื่องมือ Email Marketing ในตัว ช่วยให้คุณสร้างและส่ง Email ที่น่าสนใจ เพื่อติดต่อและกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจ นอกจากนี้ Zoho CRM ยังมีฟีเจอร์พื้นฐานของระบบ CRM ทั่วไปครบครัน เช่น การจัดการข้อมูลลูกค้า ติดตามโอกาสทางขาย และวิเคราะห์ข้อมูล โดย Zoho CRM ก็มีทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงินที่ให้ฟีเจอร์ที่หลากหลายมากขึ้น เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเครื่องมือ CRM ที่ครอบคลุมการขายและการตลาด
3. Active Campaign
Active Campaign เป็นเครื่องมือ Email Marketing ที่มีความ มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้สร้าง Email ที่น่าสนใจ Active Campaign มีเทมเพลต Email ที่หลากหลาย ให้คุณเลือกใช้งาน และ เครื่องมือ Drag & Drop ที่ช่วยให้คุณออกแบบ Email ได้ง่ายๆ Active Campaign ช่วยติดตามผลลัพธ์ของ Email ได้อย่างละเอียด เช่น อัตราการเปิดอ่าน อัตราการคลิกและอัตราการแปลงเป็นลูกค้า ช่วยจัดการรายชื่อลูกค้า แบ่งกลุ่ม และ ติดตามพฤติกรรม ของลูกค้า เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด ที่ต้องการใช้ Email Marketing เพื่อ ดึงดูดลูกค้า กระตุ้นการขายและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า จุดเด่นของ ActiveCampaign คือ ระบบ Automation สร้าง Workflow อัตโนมัติ เพื่อส่ง Email ที่เหมาะสม ในเวลาที่เหมาะสม
4. Facebook Lead Ads
Facebook Lead Ads คือเครื่องมือโฆษณาบน Facebook ที่ออกแบบสำหรับดึงดูดและเก็บข้อมูลของ Lead Generation Facebook โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างจากโฆษณา Facebook ทั่วไป ดังนี้ ฟอร์มกรอกข้อมูลภายในแอป (In-App Form) แทนที่จะต้องคลิ๊กไปยังหน้า Landing Page เว็บไซต์ภายนอก Facebook Lead Ads จะแสดงฟอร์มกรอกข้อมูลให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลภายในแอป Facebook เลย ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่า ช่วยลดความยุ่งยากในการกรอกข้อมูล ทำให้มีโอกาสที่คนจะกรอกข้อมูลมากขึ้น ข้อมูลเบื้องต้นกรอกอัตโนมัติ (Auto-fill) Facebook Lead Ads สามารถดึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บน Facebook เช่น ชื่อ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ มาเติมในฟอร์มให้อัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สะดวกในการกรอกข้อมูลมากขึ้น การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Targeting) เช่นเดียวกับโฆษณา Facebook ทั่วไป คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับการยิงโฆษณาได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้โฆษณาของคุณเข้าถึงกลุ่มคนที่สนใจจริงๆ
5. Google Analytics
Google Analytics คือ เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์ฟรีจาก Google ที่ช่วยติดตามจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ ดูจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ว่ามาจากไหน ใช้เวลาบนเว็บไซต์นานแค่ไหน และดูหน้าเว็บอะไรบ้าง วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เข้าชม ดูว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์มีพฤติกรรมอย่างไร คลิกอะไร ดาวน์โหลดอะไร และกรอกข้อมูลอะไร ติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาด ดูว่าแคมเปญการตลาดมีประสิทธิภาพแค่ไหน ดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้มากน้อยแค่ไหน และแปลงผู้เข้าชมเป็นลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน Google Analytics ช่วยให้เข้าใจผู้เข้าชมเว็บไซต์ดีขึ้น และปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการของผู้เข้าชม ส่งผลให้เพิ่มยอดขาย เพิ่มจำนวนลูกค้า และเพิ่มผลกำไร