Checklist เขียนบทความอย่างไรให้ติด SEO บน WordPress

สำหรับโพสนี้จะมาแชร์เช็คลิสจริงที่ผมเป็นคนทำขึ้นมา เพื่อให้ทีมงานสายContent SEO ของผม
ซึ่งเป็นประโยชน์มาก เพราะใครก็สามารถทำได้ มีอะไรบ้างลองไปดูกันเลยครับ

สำหรับขั้นตอน ผมจะแบ่งออกเป็น 4 โปรเซส  แบ่งเป็น เตรียมบทความ(ก่อนลง), ลงบทความ(ลงเว็บไซต์), ปรับแต่งบทความให้สวยงาม และสุดท้ายผมเรียกขั้นตอนการทำ SEO นี้ว่า Content for SEO(อันนี้โคตรรสำคัญ)

เตรียมไฟล์บทความ  

ขั้นแรก เตรียมโฟลเดอร์ที่จะใส่บทความและเนื้อหาลงไป ในโฟลเดอร์นี้จะประกอบไปด้วยบทความ และรูปภาพปก และภาพประกอบที่เราจะใช้

รูปภาพ 

ทั้งปก และ ภาพประกอบ 

• ตั้งชื่อรูปเป็นภาษาอังกฤษ (จะได้ไม่ซ้ำกันตอนใส่ Alt text)
• ตั้งชื่อโดยห้ามใส่เครื่องหมาย_
• ยอรูปให้ไฟล์เล็กที่สุด ให้ได้ไม่เกิน 100kb
  

แหล่งรูปฟรีที่สามารถนำมาใช้ได้  (หรือจะดัดแปลงเพิ่มก็ได้)
->http://pixabay.com/
->https://unsplash.com/
->https://www.freepik.com/
->https://www.pexels.com/
เครื่องมือที่ใช้สำหรับยอขนาดรูปและไฟล์ที่ผมใช้บ่อย https://www.iloveimg.com/th

ใส่หัวข้อ(H1) และเนื้อหา Text ที่เตรียมไว้

เติมH2 และ H3 ในบทความ  

H2 จะเลือกที่เกี่ยวกับตัวที่เน้นคีย์เวิร์ด  ส่วน H3 จะใส่ในหัวข้อที่ไม่เน้นคีย์เวิร์ด

เช็คคีย์เวิร์ดที่ต้องการผ่าน Rankmath

หรือถ้าปัจจุบันใน WordPress ใครใช้ Yoat อยู่กับสามารถใช้ได้เหมือนกันครับ แต่ส่วนตัวคิดว่าRankmath ตอบโจทย์คีย์เวิร์ดภาษาไทยมากกว่า และเข้าใจง่ายกว่า แค่นั้นครับ

Edit snippet  

โดยจะมี 3 ส่วนหลักนั่นคือ

• ปรับ Title หัวข้อบทความ โดยหัวบทความที่จะแสดงบน Google นั้น จะต้องมีคีย์เวิร์ดที่เราตั้งใจดัน อยู่ในส่วนแรกๆของหัวข้อนะจ๊ะ
• Description คำอธิบายบทความ ต้องมีคีย์เวิร์ด แต่ไม่จำเป็นต้องเน้นให้ติดกันก็ได้ เอาให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด
• Permalink  ใส่ลิงค์ URL  ให้เป็นภาษาอังกฤษ  เพื่อที่ว่าเวลาเราแชร์ ลิงค์นั้นจะไม่กลายเป็นภาษาต่างดาว และปรับลิงค์ให้ใกล้เคียงกับเนื้อหาบทความเข้าไว้

Categories  กำหนดชนิดบทความตามชนิดที่เราได้ตั้งไว้แต่แรก

Future Image    ใส่หน้าปกที่เตรียมไว้ โดยมีรายละเอียดคร่าวๆดังนี้

• Title ให้เป็นภาษาอังกฤษ จะได้ไม่ซ้ำกับ Alt text
• Alt Text  ใส่คีย์เวิร์ดภาษาไทย ตรงนี้เพื่อให้Google รู้ว่ารูปนี้สื่อถึงคีย์เวิร์ดอะไร
• ใส่รายละเอียดบน Description เท่าที่จำเป็น

ใส่รูปภาพประกอบที่เตรียมไว้

• รับ Alt text ของภาพไม่ให้ชื่อซ้ำกัน   
• ให้ Alt text เป็นภาษาไทย   และไม่ให้เป็นประโยค

O ใส่วีดีโอจาก ยูทูป

ทั้งนี้ ถ้าหากเรามียูทูปก็ควรใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มให้เนื้อหาบทความน่าสนใจ  จะเป็นของที่เราเตรียมไว้ หรือเนื้อหาส่วนเสริมที่ใกล้เคียงจากของคนอื่นก็ได้ (แต่อย่าเอาของคู่แข่งมาเชียว)   

ทั้งนี้เป้าหมายก็เพื่อให้คนอยู่กับเรามากที่สุด ดังนั้นคลิปวีดีโอก็จะช่วยได้มากเหมือนกัน

ใส่สีสันให้ตัวอักษร   ให้เนื้อหามีความน่าอ่านมากยิ่งขึ้น

จัดแต่ละย่อหน้าของบทความ

อย่าให้เกิน 5 บรรทัด เพื่อให้การอ่านนั้นดูไม่อึดอัด และดูอ่านง่าย ถ้าเกินให้แยกเนื้อหา  และอาจใส่รูปคั่นกลางได้

ใส่ Table of content

ตัว Table of content  นอกจากจะช่วยเรื่องการดูเนื้อหารวมของบทความแล้ว  ยังมีส่วนช่วย SEO ให้บทความของเราติด Featured snippet หรือ Search Features ได้อีกด้วย

ถามว่าทำไมผมต้องตั้งชื่อว่า Content for seo   ก็เพราะว่าขั้นตอนนี้จะเป็นวิธีการที่จะทำให้Google รู้ว่าเรากำลังจะส่งพลังให้คีย์เวิร์ดไหนในวิธีการทำ Internal link และ เราสามารถทำ External link ได้ หากมีเว็บไซต์ที่อยู่ในเครือของเรา หรือถ้าไม่มี External link ก็ไม่จำเป็นครับ เพราะสิ่งสำคัญคือการให้คนที่เข้ามาอยู่กับเราให้ได้นานที่สุดนั่นเอง 

Internal link

• ใส่ลิงค์ที่เป็นคีย์เวิร์ดหลักของเว็บไซต์ เช่น วัตถุดิบซูชิ แล้วใส่ URL หน้าหลักของคีย์เวิร์ดนี้ที่เราทำไว้แล้วครับ (หากใครงง ไว้จะมาอธิบายอีกทีในบทความหน้า)
• โดยให้ลิงค์หลักนี้ พยายามอยู่ในส่วนแรกๆไว้ก่อน เพื่อให้มีโอกาสที่จะเกิดการกดให้ได้มากที่สุด
• โยงลิงค์ เข้าในส่วนของบทความอื่น เพื่อให้เกิดการเปิดหลายหน้า (ดีต่อมุมมอง SEO)

External link 

คือลิงค์ที่ออกนอกเว็บไซต์ของเรา โดยจะมีหรือไม่มีก็ได้  แต่ถ้าอยากให้มีก็ทำดังนี้ครับ

• เตรียมลิงค์ที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่เราจะโยง แต่ต้องไม่ใช่เว็บไซต์ของคู่แข่ง
• สามารถใส่เป็นคลิปวีดีโอได้ โดยต้องเป็นคลิปจากยูทูปเท่านั้น  และต้องไม่ใช่ของคู่แข่ง

เป็นอย่างไรบ้างครับ อย่างที่บอกว่านี่คือเช็คลิสที่ผมใช้กับทีมงานอยู่เป็นประจำ  ดังนั้นรับประกันว่าสามารถนำไปใช้ให้บทความติดอันดับได้แน่นอน (ใครยังไม่มั่นใจลองดูผลงานSEO ที่ผมทำให้กับลูกค้าของผมได้)