Backlink ฟรี หายังไงให้มีคุณภาพ ไม่รู้ถือว่าพลาด!

Backlink ฟรี คือ การที่เว็บไซต์ของเราถูกเว็บไซต์อื่นลิงก์มาหา เพื่อทำการอ้างอิงถึง โดยเราไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งการได้รับ Backlink ฟรี อาจเกิดจากเว็บไซต์อื่นว่าเนื้อหาในเว็บของเรามีประโยชน์และมีคุณค่า ซึ่งการทำลิงก์กลับมานั้นจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและดันอันดับเว็บให้เราได้อีกด้วย

แต่การที่จะถูกเว็บไซต์อื่นยอมรับและเชื่อถือ ควรจะต้องเป็นเว็บที่เปิดมานานมากกว่าหรืออายุโดเมนที่สูงกว่า ทำให้หลายคนสงสัยว่าถ้าหากเป็นเว็บไซต์น้องใหม่ แต่อยากมี Blacklink เยอะ ๆ กับเขาบ้างต้องทำยังไง??  บทความนี้มีคำตอบ

Backlink ที่ดี มีคุณภาพ ต้องเป็นยังไง?

หลังจากที่รู้ไปแล้วว่า Backlink คืออะไร ต่อไปเราจะต้องรู้วิธีการทำให้มี Backlink ฟรี เข้ามาในเว็บ ซึ่งควรทำความเข้าใจก่อนว่าลักษณะของ Backlink ที่ดีนั้นเป็นยังไง เพราะแน่นอนว่าไม่ใช่ลิงก์ทุกลิงก์ที่เชื่อมโยงเข้ามาในเว็บของเราจะสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือและคะแนนของเว็บได้ 

ไม่อย่างนั้นเว็บอื่น ๆ ก็คงใช้การดันเว็บด้วยการใช้ “จำนวน” Backlink มากกว่าคุณภาพไปแล้ว ซึ่งแบบนั้นขัดกับหลักการ E-E-A-T และ YMYL ของ Google แบบเต็ม ๆ 

• Backlink ควรมาจากเว็บที่น่าเชื่อถือ: การที่เว็บที่มีความน่าเชื่อถือสูงอ้างอิงกลับมาที่เว็บไซต์ของคุณ จะทำให้คะแนน DA (Domain Authority) และ PA (Page Authority) ของคุณเพิ่มตามไปด้วย 

(วิธีดูโดเมนหมดอายุ คุณภาพสูง หาได้ตามขั้นตอนนี้)

• Backlink ควรมาจากเว็บที่เกี่ยวข้องกัน: เว็บที่ส่ง Backlink กลับมา แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าจะเป็นเว็บอะไรก็ได้ แต่ควรต้องเป็นเว็บที่เกี่ยวข้องกัน เช่น สมมติว่า MakeWebEasy ทำ Backlink กลับมาที่ funnel.in.th ซึ่งสองเว็บนี้มีความเกี่ยวข้องกัน ทำให้ Google มองว่า funnel.in.th เป็นเว็บเกี่ยวกับการทำ SEO เช่นกัน
• Backlink ควรมาจากเว็บที่ไม่เคยสแปม: ลิงก์ควรมาจากเว็บไซต์ที่ไม่เป็นสแปมและไม่มีประวัติการละเมิดนโยบาย SEO 
• Backlink ควรมาจากหลากหลายแหล่ง: เพื่อความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก การมีเว็บหลากหลายเว็บทำ Backlink ฟรี ส่งมายังเว็บของคุณจะช่วยเพิ่มความหลากหลายและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น เพราะนั่นแสดงว่าเว็บของคุณได้การยอมรับในวงกว้าง

DoFollow VS NoFollow Links คืออะไร?

เราต้องเข้าใจอย่างกระจ่างก่อนว่า “ไม่ใช่ทุก Backlink ฟรี จะส่งเสริมเว็บของเรา”

การ Backlink กลับมาให้ก็เหมือนการโปรโมตเว็บให้เรา แต่แน่นอนว่าคนที่ช่วยโปรโมตให้ก็อาจจะไม่ได้มีอิทธิพลเท่าไรนัก 

อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ Backlink แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ

DoFollow Backlink

DoFollow Backlink เป็น Backlink ฟรีที่หลาย ๆ เว็บต่างอยากได้ เพราะจะได้รับพลังและความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ได้ ตัวอย่างเช่น สำนักข่าวระดับโลกเขียนข่าวเกี่ยวกับเว็บของเรา แล้วทำ Backlink กลับมาให้ด้วย นอกจากเว็บของเราจะโดดเด่นเป็นที่รู้จักในวงกว้างแล้ว ยังดีต่อคะแนนการทำ Off-Page SEO ของเราอีกด้วย

NoFollow Backlink 

NoFollow Backlink เป็น Backlink ที่ไม่ได้เพิ่มพลังให้กับเว็บไซต์ หรือ ไม่ได้ทำให้คะแนน SEO ดีขึ้น ส่วนใหญ่แล้วลิงก์ประเภทนี้จะเป็นลิงก์ตาม Social Media ต่าง ๆ แต่ก็ใช่ว่าการได้รับ Backlink ฟรีที่เป็น NoFollow จะไม่มีข้อดีเสมอไปเพราะมันช่วยก่อให้เกิดการรู้จักเว็บเราในวงกว้างได้นะ และนั่นก็เป็นการเพิ่มยอดการเข้าถึงเว็บของเราได้

6 เทคนิคทำเว็บไซต์ให้ได้ Backlink ฟรี

เรารู้จักกับ Backlink ประเภทต่าง ๆ กันไปแล้ว ถึงเวลาที่ต้องสร้างโอกาสให้เว็บไซต์ของเราได้มี Backlink ฟรีดี ๆ เพื่อเพิ่มคะแนน SEO แล้วล่ะ จะมีเทคนิคอะไรบ้าง มาดูกัน

ทำคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ

“ถ้าคุณอยากให้ผีเสื้อมาหา บางครั้งการปลูกดอกไม้ที่ทั้งสวยและหอมก็เป็นเรื่องจำเป็น”

กรณีนี้ก็เช่นเดียวกับเว็บไซต์ ถ้าเราต้องการดึงดูด User จำนวนมาก รวมถึงได้รับการยอมรับจากเว็บไซต์ในวงการเดียวกันในการช่วยทํา Backlinkก็ควรต้องใส่ใจเนื้อหา (Contents) ต่าง ๆ อย่างละเอียด ทั้งข้อมูลและความไหลลื่นในการเสพก็ควรจะกลมกล่อมลงตัว ซึ่งเป็นการสร้าง Original Traffic ได้อย่างดีเยี่ยมเลย

(เทคนิคดี ๆ ที่ช่วยให้ทำ Content ให้มีคุณภาพ ต้องอ่าน)

ทำ On-page SEO ให้ดี

คุณเคยเจอร้านอาหารที่อร่อยมาก ๆ แต่ขายได้ไม่ค่อยดีไหม?  ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร เช่น ทำเลหายาก ไม่ได้ทำการตลาด หรือ ไม่ได้เปิดร้านสม่ำเสมอ ก็ล้วนทำให้โอกาสที่ร้านอาหาร “ดี ๆ”  อาจจะ “เจ๊ง” ได้!

เช่นเดียวกับเว็บไซต์ ถึงแม้เนื้อในคุณจะมีคอนเทนต์ที่ทรงคุณค่ามากมาย แต่ถ้าไม่ทำ On-Page SEO ให้ดี อย่างการวางแผน Keyword สำหรับบทความ การทำ External Link / Internal Link ก็มีโอกาสที่เว็บนั้นจะหายไปจากหน้าแรก Google ซึ่งนั่นก็ไม่ต่างอะไรจากการลอยอยู่กลางทะเลที่ไม่มีใครหาเจออีกเลย

ใช้ Infographic เข้ามาช่วย

ปัจจุบันคนเราแข่งขันกับเวลากันอย่างดุเดือด ชนิดที่ว่าหลายคนเลือกจะฟัง Podcast หรือ Audio Book แทนการอ่านหนังสือจริง ๆ แล้วเพราะไม่มีเวลามากพอ เว็บไซต์ประเภทบทความเองก็ควรปรับตัว ด้วยการย่อยสาระสำคัญที่อ่านเข้าใจง่าย ดูปั๊บเข้าใจปุ๊บ! อย่างการทำ Infographic ก็เป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยม

Influencer Marketing ช่วยได้นะ

ไม่ว่าเว็บไซต์ของคุณจะอยู่ในวงการไหน อสังหาฯ, ไอที, อาหาร, สัตว์เลี้ยง ทุกแวดวงย่อมมี “Influencer” รวมถึง “KOLs” ผู้มีคนติดตามที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับธุรกิจของคุณอยู่แล้ว หน้าที่สำคัญคือคุณต้องทำให้พวกอินฟลูเอนเซอร์รับรู้ถึงการมีอยู่ของเว็บไซต์แล้วทำการบอกต่อไป ด้วยการทำการตลาดอินฟลูเอนเซอร์นั่นเอง

เทคนิคนี้นอกจากจะทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงตัวไม่เสียเวลาแล้ว ยังมีโอกาสที่ KOLs รวมถึงเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องสนใจและ Backlink กลับมาให้เราได้ด้วยเช่นกัน

แลกเปลี่ยนลิงก์กัน

หากคุณอยากได้ Backlink ฟรี อาจจะลองใช้การติดต่อกับเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บของคุณ จากนั้นทำข้อตกลงว่าจะแลกเปลี่ยนผลัดกันทำ Backlink กลับให้อีกฝ่าย วิธีนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

แจกสิ่งดี ๆ ให้คนอื่นฟรี

“ยิ่งให้…ยิ่งได้” คำกล่าวนี้เรียกว่าตรงเผงกับเทคนิคการหา Backlink ฟรีนี้เลย เพราะเราจะทำการแจก Resource ต่าง ๆ ให้กับคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ เช่น หนังสือ E-Book, Presentation, เทคนิคดี ๆ ซึ่งยิ่งเราตั้งใจทำ ตั้งใจให้ ตามสัญชาตญาณของมนุษย์ เมื่อพวกเขาได้รับอะไรสักอย่าง เขาจะอยากตอบแทนเช่นกัน รวมถึงการส่ง Backlink กลับมาด้วย

เป็นเว็บไซต์ใหม่ อยากได้ Backlink ฟรี ต้องทำยังไง?

เทคนิคการทํา Backlink ที่เราแนะนำไป หลายคนอาจจะรู้สึกว่าต้องอาศัยเวลาและทรัพยากรค่อนข้างมาก สำหรับใครที่มีเวลาจำกัดและเป็นเว็บไซต์น้องใหม่ แนะนำให้ลองใช้วิธีทํา Backlink ด้วยเครื่องมือ H-Supertools ตามคำแนะนำต่อไปนี้

H-Supertools คืออะไร

เป็นเว็บไซต์ที่ถือว่าตอบโจทย์นักทำ SEO และการตลาดออนไลน์ได้อย่างครอบคลุมเพราะในเว็บไซต์นี้เป็นแหล่งรวม Free Material หลาย ๆ ประเภท ซึ่ง Backlink ก็ถือเป็นหนึ่งใน Free Material ดังกล่าวด้วย โดยฟีเจอร์ที่เราจะใช้กันจากเว็บนี้คือ “Backlinks List Explore” 

ที่ได้รวบรวม Backlink ไว้อย่างมากมาย ช่วยเป็น Backlink Checker ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์ใหม่สามารถบรรลุเป้าประสงค์ของการทำ SEO และการไต่อันดับได้ง่ายขึ้น และมีความดีงามอีกมากมาย อาทิ

• เราจะได้รับ Backlink ที่ตรงเป้าหมายสำหรับไซต์ของเราโดยไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตมากเกินไป เพราะเขาจะส่งข้อมูลมาให้เรา
• Backlink ใน Backlinks List Explorer จะมีการอัปเดตอยู่ตลอดเสมอ

ขั้นตอนใช้ H-Supertools (ฟรี) 

• กรอกชื่อเต็ม ที่อยู่อีเมล และรหัสผ่าน 
• กดยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขและนโยบายความเป็นส่วนตัว 
• ยืนยันว่าเราไม่ใช่หุ่นยนต์ และเมื่อการยืนยันเสร็จสิ้น ก็จะถือว่าการลงทะเบียนสำเร็จและพร้อมใช้งาน

เครื่องมืออื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• AI Writer ฟรี 
• เครื่องมือสร้างโครงร่าง 
• เครื่องมือวิจัยคำหลัก 
• เครื่องมือวิเคราะห์ SEO 
• เครื่องมือเช็ก Backlink ฟรี 

ตัวอย่างการใช้ H-Supertools

เพื่อความเข้าใจมากขึ้น Funnel จะนำตัวอย่างการใช้งาน H-Supertools ของ User ท่านหนึ่งมาเป็น Case Study ประกอบการอธิบายให้ทุกคนมองเห็นภาพรวมการใช้งานได้ดีขึ้น

โดย User คนนี้เขาได้จัดเรียงรายการตาม DR (Domain Ranking) จากคะแนนมาก→น้อย ทำให้ Instagram, Twitter และ YouTube อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการโดยมี DR 99, 99 และ 98 ตามลำดับ

รูปด้านล่างจะเป็นตัวอย่างของหน้าที่สองของผลการค้นหาซึ่งแสดงรายการ Medium.com เป็นไซต์ DR 94 ที่มีประเภทลิงก์ Nofollow (ไม่ให้พลังกับเว็บไซต์)

สำหรับกลยุทธ์ในการรับ Backlink คือ การคลิก URL ของแต่ละเว็บไซต์ก่อน โดยเริ่มจากไซต์ที่มี DR สูงสุดด้วยประเภทลิงก์ Dofollow (DF) จากนั้นให้ดูว่าเป็นไซต์ที่เหมาะกับเฉพาะกลุ่มของเราและเป็นเว็บไซต์ที่เราต้องการตั้งค่าลิงก์หรือไม่ ถ้าใช่ ก็ให้ทำตามคำแนะนำของ H-Supertools เกี่ยวกับวิธีตั้งค่า Backlink ให้กลับมายังเว็บไซต์ของเรา

เว็บไซต์ที่ระบุไว้ในรูปตัวอย่าง  ได้แก่ :

• Blogger.com DR94 (DF)

• Behance.net DR93 (NF)

• Weebly.com DR93 (DF)

• WordPress.com DR93 (DF)
• Goodreads.com DR92 (NF)
• SlideShare.net DR92 (DF)
• Quora DR91 (NF)
• Webflow.io DR90 (DF)
• Carrd.co DR86 (DF)

โดย User คนนี้ได้กล่าวไว้ว่าเขาได้สังเกตเห็นบางเว็บไซต์ในรายการแสดงข้อความจากแอป Nortons ที่ติดตั้งบนแล็ปท็อปของตนเอง เตือนว่าเขากำลังจะเยี่ยมชมไซต์ที่เป็นอันตราย นั่นจึงทำให้เขาสามารถระวังและไม่ได้กดเข้าเว็บนั้นนั่นเอง

แจกพิกัดตำรา Backlink Building 101 ฟรี

สำหรับชาว SEO ที่ยังรู้สึกว่าเทคนิคต่าง ๆ ที่ให้ไปยังไม่จุใจ! อยากรู้ทฤษฎีกันให้เน้น ๆ Funnel ก็ได้หยิบยกคู่มือศึกษาการสร้าง Backlink จากฝั่งต่างประเทศที่ถือว่าครอบคลุมและนำไปปฏิบัติได้จริง ที่สามารถช่วยคุณพัฒนากลยุทธ์การสร้างลิงก์ (Link Building) มาฝาก:

• Search Engine Journal: Link Building for SEO: A Complete Guide

• Backlinko: Link Building for SEO: The Definitive Guide (2022)

• Ahrefs: The Beginner’s Guide to Link Building

• SEMRush: How to Get Backlinks: 11 Strategies

ซึ่งเนื้อหาจากคู่มือที่เรานำมาฝากนั้น ถือเป็นอาวุธชั้นดีที่จะสามารถช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์มือใหม่สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Backlink และวิธีการสร้าง Backlink ได้ด้วยตนเอง

ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดอันดับ SEO

การสร้างเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก Google ต้องใช้หลักการทำ SEO เข้ามาช่วย แต่แน่นอนว่าแค่การทำ Backlink อย่างเดียวนั้นไม่พอแน่นอน เพราะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลเช่นกันซึ่ง 3 อันดับปัจจัยสำคัญของ Google Ranking ตามการระบุของ Google’s Andrey Lipattsev  ได้แก่ 

• ลิงก์
• เนื้อหา
• Rankbrain (ระบบ AI ที่มีหน้าที่หลักในการช่วยประมวลผลการค้นหาใน Google Search และช่วยในการจัดอันดับผลลัพธ์ของการค้นหา)

ทั้งนี้ Brian Dean ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ยังได้กล่าวไว้ถึง ปัจจัย 200 ข้อ ที่มีผลต่อ Google Ranking ไว้บนเว็บไซต์ของเขาเองที่ชื่อว่า Backlinko ซึ่ง 47 ข้อจาก 200 ข้อนั้นเกี่ยวกับ Backlink ด้วย

เช่น

1. # ของการเชื่อมโยงของโดเมนรูท
2. # ของการเชื่อมโยงหน้าเนื้อหา (Pages)
3. ลิงก์จากโดเมน .edu หรือ .gov
4. การเชื่อมโยงของ PA
5. การเชื่อมโยงของ DA
6. ลิงก์จากคู่แข่ง
7. ลิงก์จากเว็บไซต์ที่ “คาดหวัง”
8. Guest Post 
9. Homepage Authority
10. ลิงก์แบบ Nofollow 
11. การเชื่อมโยงความเกี่ยวข้องของโดเมน
12. ความเกี่ยวข้องระดับหน้า
13. ลิงก์จาก Hubpages
14. การเชื่อมโยงจากเว็บไซต์เฉพาะกลุ่ม (Authority Sites)
15. การเชื่อมโยงกับแหล่งที่มาของวิกิพีเดีย
16. ลิงก็จากเว็บไซต์จริง VS ลิงก์จากบล็อกสแปม (Splogs)
17. TrustRank ของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เชื่อมโยง
18. คุณภาพของการเชื่อมโยงเนื้อหา

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)