10 เครื่องมือย่อ URL พร้อมวิธีใช้และเหตุผลว่าทำไมนักการตลาดต้องรู้จัก
เรียกได้ว่าในปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จัก URL หรือ ที่อยู่เว็บไซต์ ที่ปัจจุบันถือว่าเป็นส่วนสำคัญของการตลาดออนไลน์เลยก็ว่าได้ และแน่นอนจากที่ได้บอกไปว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก URL แต่ในทางกลับกัน เคยมีใครสงสัยกันไหมว่าทำไมทำไมทุก ๆ ครั้งที่เราจะทำการส่งหรือโพสต์ URL ของเว็บไซต์ลงแพลตฟอร์มอื่น ๆ หลาย ๆ คนนิยมทำการ “ย่อ” ให้มันสั้นลง ทั้ง ๆ ที่นำลิงก์มาแปะ ๆ แบบทั้งยาว ๆ ที่มันเป็นก็ได้ และปลายทางก็คือหน้าเว็บไซต์เหมือนกัน หากคุณสงสัย บทความนี้ของ Funnel เหมาะกับคุณ
URL คืออะไร ทำไมต้อง “ย่อ”
URL ย่อมาจาก Uniform Resource Locator ก็คือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของ ที่อยู่ของเว็บไซต์ (Web Address) หรือลิงก์ของเว็บไซต์ (Web Link) นั่นเอง ตัวลิงก์ของเว็บไซต์นี้เป็นส่วนที่เราต้องก็อปปี้มาวางลงไปบนโซเชียลมีเดียเมื่อต้องการแชร์หรือเผยแพร่เนื้อหาจากเว็บไซต์ซึ่งถือได้ว่าเป็นบ้านของธุรกิจของเรา ไปยังช่องทางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือใช้ในการแบ่งปันเนื้อหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นบนแพลตฟอร์มเดียวกันหรือข้ามแพลตฟอร์ม
การแชร์ลิงก์ที่มีความยาวมาก ๆ และในบางครั้งยังเป็นตัวอักษรติดกันเป็นพรืดที่ไม่สามารถสื่อความหมายอะไรได้ ลงบนโซเชียลมีเดีย เป็นการกระทำที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่อยากให้ผู้พบเห็นโพสต์ของคุณบางส่วนรู้สึกรู้สึกรกหูรกตา และปฎิเสธที่จะรับรู้ในสิ่งที่คุณต้องการนำเสนอ ซึ่งทางเลือกเพื่อแก้ปัญหานี้ก็คือ URL Shortener เครื่องมือที่จะช่วยย่อ URL ของเราให้สั้นลงนั่นเอง
แนะนำฟังก์ชันต่าง ๆ จากเครื่องมือย่อ URL ที่นักการตลาดควรรู้จัก
หลาย ๆ คนคงยังไม่รู้ว่าในเครื่องมือ ๆ หนึ่งที่ใช้ย่อ URL นั้นมีฟังก์ชันและคุณสมบัติที่หลากหลายมาก ๆ โดยนอกจากการย่อลิงก์แล้วก็ยังมีข้อดีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น…
1.ทำให้ URL สั้นลง
แน่นอนว่าเป็นฟังก์ชันหลักของเครื่องมือที่ทุก ๆ คนต้องรู้ โดยการย่อ URL นี้จะช่วยลิงก์เว็บไซต์ของแบรนด์มีความกะทัดรัดและสามารถจัดการและควบคุมได้ ทั้งนี้ยังแชร์และจดจำได้ง่ายขึ้นด้วย
2.สามารถกำหนดนามแฝงได้เอง
เนื่องจาก URL บางตัวนั้นช่วยให้ผู้ใช้สร้างนามแฝงที่สามารถกำหนดเองได้ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการสร้างแบรนด์ได้มากขึ้น เพราะสามารถสร้างความน่าจดจำต่อผู้บริโภคได้นั่นเอง
3.สามารถติดตามและทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกทางการตลาดได้
มีหลาย ๆ เครื่องมือที่สามารถทำให้ URL ช่วยให้คุณสามารถติดตามข้อมูลเชิงลึกของผู้ที่คลิกลิงก์ได้ คล้าย ๆ เป็นการติดอนาไลติกส์ (Analytics) ให้กับลิงก์ที่ถูกย่อให้สั้นลงแล้วของคุณ โดยบอกตั้งแต่จำนวนการคลิก เวลาการคลิก ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของผู้คลิก ฯลฯ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีมูลค่าต่อบริษัทเจ้าของ และผู้พัฒนาเว็บไซต์/แพลตฟอร์ม ในการนำไปวัดผลและเป็นข้อมูลประกอบเพื่อดำเนินการทางการตลาดต่อในอนาคต
4.สร้าง QR Code ได้อัตโนมัติ
สำหรับเครื่องมือย่อ URL บางตัวนั้นมีฟังก์ชันในการสร้างรหัส QR โดยอัตโนมัติหลังจากการย่อ URL แล้ว ซึ่งทำให้ง่ายต่อการแชร์ลิงก์ในสิ่งพิมพ์หรือสื่ออื่น ๆ ที่สามารถสแกนรหัส QR ได้โดยตรง
5.การหมดอายุและการป้องกันด้วยรหัสผ่าน
เครื่องมือย่อ URL บางตัวมีคุณสมบัติขั้นสูงที่หลากหลาย เช่น การตั้งค่าวันหมดอายุสำหรับ URL แบบย่อหรือการป้องกันด้วยรหัสผ่านของลิงก์เพื่อให้แน่ใจว่าเฉพาะผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงปลายทางได้
6.การย่อ URL ทีละจำนวนมาก ๆ
ฟังก์ชันบางอย่างจากเครื่องมือย่อ URL นั้นสามารถช่วยให้ผู้ใช้ย่อ URL หลายรายการพร้อมกันได้ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการจัดการและแชร์ชุดลิงก์จำนวนมาก
7.การแชร์บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่างไร้พรมแดน
มีเครื่องมืออยู่จำนวนอยู่ไม่น้อยที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถแชร์ลิงก์ URL หลังการย่อแล้วไปได้อย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและบริการออนไลน์อื่นๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์ลิงก์ที่ย่อได้โดยตรงจากเครื่องมือย่อ URL นั้น ๆ ได้เลย
8.การเข้าถึง API
เครื่องมือบางตัวสามารถให้การเข้าถึง API กับผู้ใช้ ดังนั้น มันจึงทำให้นักพัฒนาสามารถรวมบริการเข้ากับแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือเครื่องมือของตนเองได้
9.การจัดการลิงก์
แม้จะทำการย่อให้สั้นลงแล้วแต่ผู้ใช้บางคนอาจจำเป็นจะต้องทำการจัดการลิงก์ให้เป็นระเบียบมากขึ้น ซึ่งเครื่องมือบางตัวก็มีฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ เช่น การจัดระเบียบ URL แบบย่อลงในโฟลเดอร์ การแท็ก หรือการเพิ่มบันทึกเพื่อติดตามลิงก์ได้อย่างง่ายดาย
10.โดเมนที่มีตราสินค้า
ฟังก์ชันนี้อาจอยู่ในส่วนของการซื้อพรีเมี่ยมของผู้ใช้บางท่าน โดยฟังก์ชั่นนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ใช้โดเมนที่กำหนดเองของตนเองสำหรับลิงก์ที่สั้นลง ซึ่งช่วยเสริมการจดจำแบรนด์และความไว้วางใจจากผู้บริโภคมากขึ้น ผู้ที่อยู่ในสายการตลาดออนไลน์และสายสร้างแบรนด์ไม่ควรพลาด
10 เครื่องมือย่อ URL ยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด
ต่อไปนี้ เราจะมานำเสนอ 10 เครื่องมือย่อ URL ยอดนิยมที่นักการตลาดควรรู้จัก โดยก่อนอื่นเราต้องบอกให้ทราบก่อนว่ารายละเอียดของเครื่องมือย่อ URL ที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรืออัปเดตได้ตลอด และบางฟังก์ชันก็อาจถูกเพิ่มเข้ามาสำหรับผู้ใช้ระดับพรีเมียมได้
ซึ่ง 10 เครื่องมือที่ว่าจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน
1.Bitly
เป็นเครื่องมืออันดับแรก ๆ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่ง Bitly มีฟังก์ชันต่าง ๆ ที่หลากหลาย เช่น โดเมนที่มีตราสินค้าที่กำหนดเอง, การวิเคราะห์โดยละเอียด, การจัดการลิงก์, และการใช้งานร่วมกับเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ โดย Bitly มีแผนทั้งแบบฟรีและพรีเมียมที่เสียค่าใช้จ่ายโดยจะมีจำนวนฟังก์ชันที่ต่างกัน ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าจะเลือกแผนใด
2.Shor t.io
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ตอบโจทย์กับผู้ใช้มาก ๆ เพราะมีฟังก์ชันที่หลากหลาย เช่น โดเมนแบบกำหนดเอง, การจัดการลิงก์, การวิเคราะห์โดยละเอียด, การย่อจำนวนมาก และการเข้าถึง API นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการทำงานร่วมกันเป็นทีมและการรวมเข้ากับแพลตฟอร์มยอดนิยมอื่น ๆ ได้อีกด้วย ซึ่ง Short.io มีแผนบริการฟรีและแผนชำระเงินที่หลากหลายด้วยเช่นกัน
3.TinyURL
บริการย่อ URL ที่ง่ายและเป็นที่นิยมซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2545 ช่วยให้ผู้ใช้สร้างนามแฝงที่กำหนดเองสำหรับ URL ที่ย่อ บริการนี้ใช้งานได้ฟรี แต่ไม่มีการวิเคราะห์หรือฟังก์ชันแบบขั้นสูงอื่น ๆ
4.Rebrandly
เหมาะกับผู้ใช้ที่เน้นลิงก์ที่มีแบรนด์ ซึ่ง Rebrandly ช่วยให้ผู้ใช้ย่อ URL ให้สั้นลงและกำหนดได้ด้วยชื่อโดเมนของตนเอง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การจัดการลิงก์, การวิเคราะห์, การเข้าถึง API และการใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ โดย Rebrandly มีทั้งแบบฟรีและแบบชำระเงิน
5.T.ly
เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง URL แบบย่อได้ง่ายมาก ๆ อีกอันหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดย T.ly จะมีฟังก์ชันต่าง ๆ มากมายไม่แพ้เครื่องมืออื่น ๆ เช่น นามแฝงของ URL ที่กำหนดเอง, การหมดอายุของลิงก์และการป้องกันด้วยรหัสผ่าน และการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้ T.ly มีทั้งแผนบริการฟรีสำหรับฟีเจอร์ต่าง ๆ แบบจำกัด และแผนพรีเมียมสำหรับฟีเจอร์ขั้นสูง
6.T2M
ถือว่าเป็นเครื่องมือย่อ URL ที่ครอบคลุมฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างครบครัน เช่น โดเมนแบบกำหนดเอง, การสร้างรหัส QR, การเปลี่ยนเส้นทางไม่จำกัด, การวิเคราะห์โดยละเอียด และการเข้าถึง API ซึ่ง T2M มีทั้งแผนบริการฟรีพร้อมฟังก์ชันพื้นฐานและแผนชำระเงินต่าง ๆ สำหรับฟังก์ชันอื่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามา
7.BLINK
ถูกออกแบบมาสำหรับธุรกิจและองค์กร มีฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย เช่น URL แบบสั้นที่มีตราสินค้า, การจัดการลิงก์, การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียด และการใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มต่างๆ BLINK มีทั้งแผนฟรีพร้อมกับฟีเจอร์ที่ใช้ได้อย่างจำกัด และแผนชำระเงินสำหรับฟีเจอร์ขั้นสูงอื่น อีกมากมาย
8.Yourls
เป็นเครื่องมือย่อ URL แบบโอเพ่นซอร์สที่ทางผู้ใช้เป็นโฮสต์เอง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างและจัดการตัวย่อ URL ที่กำหนดเอง พร้อมทั้งมีฟังก์ชันอื่น ๆ ด้วย เช่น การจัดการลิงก์, การใช้โดเมนแบบกำหนดเอง และการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน เป็นต้น
9.is.gd
น่าจะเป็นเครื่องมือย่อลิงก์ URL ที่ถูกใจใครหลาย ๆ คนเพราะ isgd เป็นเครื่องมือที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีฟังก์ชันสุดล้ำอย่าง การสร้างนามแฝงให้กับ URL ที่กำหนดเอง พร้อมกับมีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย แต่ที่น่าเสียดายคือเครื่องมือนี้ไม่มีฟังก์ชันขั้นสูงอื่น ๆ เช่นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกหรือโดเมนที่กำหนดเอง เป็นต้น
10.AdF.ly
เครื่องมือย่อ URL ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายได้จากลิงก์ผ่านรายได้จากโฆษณา โดยมีหลักการสร้างรายได้คือ เมื่อผู้ที่คลิกลิงก์ AdF.ly จะเห็นโฆษณาสั้น ๆ ก่อนเปลี่ยนเส้นทางไปยัง URL เดิมนั่นเอง ถือเป็นจุดเด่นของ AdF.ly เลยทีเดียว ทั้งนี้มันยังมาพร้อมกับฟังก์ชันต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การจัดการลิงก์ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และโปรแกรมการอ้างอิง เป็นต้น ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ยังไงก็ตาม การใช้ URL Shortener เพื่อย่อให้ลิงก์ของเว็บไซต์มีความยาวที่สั้นลงนั้น เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวงการการตลาดดิจิทัลมานานแล้ว และก่อให้เกิดประโยชน์ในการทำการตลาดดิจิทัลผ่านทางโซเชียลมีเดียอยู่หลายอย่าง ดังนั้น ขอย้ำอีกครั้งว่าเครื่องมือที่ทาง Funnel นำมาเสนอในบทความนี้เป็นเครื่องมือจำเป็นที่นักการตลาดควรรู้จักและสามารถนำไปต่อยอดได้เพื่อสร้างแบรนด์ให้ดีและมั่นคงขึ้น
ทั้งนี้การเตรียมความพร้อมและการศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจและตลาดของคุณจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนและใช้กลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม เพื่อประสบความสำเร็จในธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือคุณอาจเลือกใช้ Funnel.in.th! บริการรับทำ SEO มาทำหน้าที่นี้แทน เรารับทำ SEO ด้วยกลยุทธ์แบบฉบับมือโปร