ความสำคัญของ Local SEO ที่มีต่อ Local Business คืออะไร?
Local Business คือ ธุรกิจท้องถิ่น ซึ่ง คำว่า Local Business หมายถึง กิจการที่ดำเนินการธุรกิจในขอบเขตท้องถิ่นหรือพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้นและมีงบทำการตลาดน้อยกว่า ทำให้อาจจะต่อสู้กับธุรกิจขนาดใหญ่ได้ยากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจขนาดเล็ก (Local Business) จะต้องเป็นรองธุรกิจขนาดใหญ่เสมอไป เพราะยังมีวิธีการทำการตลาดที่เรียกว่า Local SEO อยู่ ซึ่งนั่นหมายถึงอะไรนั้น บทความนี้ได้ให้คำตอบไว้แล้ว
Local SEO คืออะไร?
Local SEO หมายถึง เทคนิคการทำ SEO รูปแบบหนึ่งที่มุ่งเน้นการเลือกใช้ Keywords กลุ่มคำที่ต้องการ + Location สถานที่ตั้งของกิจการ เพื่อเพิ่ม Traffic คุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ Local Business คือธุรกิจของคุณผ่านระบบ Search Engine ของ Google เพื่อเป้าหมายทางธุรกิจนั่นเอง
ทางรุ่งของ Local Business คือต้องทำ Local SEO
เนื่องจาก Local Business คือ ธุรกิจท้องถิ่นซึ่งเป็นธุรกิจประเภทหนึ่งที่มีข้อจำกัดในเรื่องของกำลังในการทำการตลาดที่น้อยกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น หากต้องการทำการตลาด SEO Marketing ด้วยการแข่งขันใช้ Keywords ที่มีอัตราการค้นหาสูง ๆ หรือกลุ่มคำ Seed Keywords สู้กับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีกำลังการตลาดมากกว่าก็จะทำให้เสียเปรียบได้
ตัวอย่างธุรกิจในท้องถิ่น เช่น ร้านอาหารท้องถิ่น, โรงแรมท้องถิ่น, ร้านขายของฝากจากงานฝีมือชาวบ้าน เป็นต้น
ยกตัวอย่างเช่น
สมมติว่าธุรกิจ Local Business คือ ธุรกิจท้องถิ่น คาเฟ่ที่จำหน่ายกาแฟแบบโฮมเมด ต้องการทำ SEO เพื่อติด Search Engine ของ Google ในคำว่า “ร้านกาแฟ, ร้านคาเฟ่, กาแฟสด” ซึ่งกลุ่มคำเหล่านี้เป็นคำที่มีอัตราการค้นหาสูงมาก เป็นคำที่ทุกธุรกิจหมายตาและธุรกิจขนาดใหญ่เลือกใช้
หากคุณเลือกใช้คำเหล่านี้สำหรับ Local Business คือ อาจจะใช้เวลานานมากกว่า 1 ปีขึ้นไป (หรืออาจมากกว่านั้น) ถึงจะประสบความสำเร็จ ดังนั้นเพื่อประหยัดเวลาและย่นความสำเร็จให้มาถึงเร็วขึ้น เราต้องกระตุ้นยอดขายให้รวดเร็วพอที่จะสู้กับธุรกิจใหญ่ ๆ ได้
นั่นก็คือถ้าอยากเปิดทางรุ่งของ Local Business คือ การทำ Local SEO หรือ การทำ SEO ที่ใช้ Keywords + Local Search หรือสถานที่ตั้งร้านแทน!
คีย์เวิร์ดสำหรับธุรกิจท้องถิ่น กาแฟ เช่น “ร้านกาแฟ ลาดพร้าว หรือ คาเฟ่โชคชัย4” แบบนี้จะดีกว่า
ข้อดีของ Local SEO สำหรับ Local Business คืออะไร?
- การทำ Local SEO ช่วยทำให้เว็บไซต์ Local Business ของคุณติดอันดับ Search Engine ของ Google ได้เร็ว
- ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ Google Seaech ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมักจะนิยมค้นหาบริการ + สถานที่ตั้ง มากขึ้น [อ้างอิงจากสถิติจาก HubSpot ที่ระบุว่า ผู้ใช้งานนิยมใช้ระบบ Local Intent ค้นหาแบบระบุที่ตั้งเพิ่มมากกว่าเดิมถึง 46% และมีจำนวนการค้นหาแบบระบุสถานที่ผ่านมือถือถึง 88%]
ด้วยข้อมูลสถิตินี้เป็นข้อพิสูจน์ว่า ยิ่งคุณเริ่มทำ Local SEO Services ในธุรกิจคุณเร็วเท่าไร คุณยิ่งได้เปรียบมากเท่านั้น
- สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่อยู่ในพื้นที่ได้ง่าย เพิ่มโอกาสเพิ่มยอดขายของ Local Business ได้มากขึ้น
- เป็นวิธีเพิ่ม Traffic Organic ให้เว็บไซต์ของธุรกิจ
- ช่วยลดค่าคลิกโฆษณาในการทำ Google Ads
- ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อให้ธุรกิจ Local Business ของคุณ เนื่องจากการทำ Local SEO จะช่วยให้ธุรกิจของคุณแสดงผลใน Google Search และ Google Map และยังทำให้ Small Local Business ของคุณมี Profile ใน Google My Business ด้วย
วิธีทำให้ Local Business ติดอันดับ Local SEO เร็ว ๆ
วิธีการทำ Local SEO ที่ถูกต้องสำหรับ Local Business คือควรจะมีการเพิ่มข้อมูลธุรกิจลงบน Google My Business (GMB) ซึ่งบริการนี้เป็นบริการของ Google โดยตรงที่เปิดให้ผู้ใช้งานที่ทำธุรกิจสามารถมาลงข้อมูลธุรกิจไว้ได้ ซึ่งเป็นบริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
1. วิธีสมัครใช้งาน Google My Business (GMB)
- เข้าไปที่ https://www.google.com/intl/th_th/business/
- ลงชื่อเข้าใช้ (Login) ด้วยบัญชี Google หรือ Gmail หากยังไม่มีก็ให้สมัครก่อนเริ่มการใช้งาน
- ลงชื่อเข้าใช้แล้วกรอกชื่อร้านหรือบริษัทของคุณ
- ใส่ข้อมูลที่อยู่ให้ครบถ้วน
- ระบบจะพาคุณไปยัง Google Maps เพื่อปักหมุดพื้นที่ธุรกิจ Local Business ของคุณ
- เลือกหมวดหมู่ธุรกิจ และใส่ข้อมูลติดต่อสำหรับลูกค้า
- หลังจากกด “เสร็จสิ้น” ระบบจะให้คุณเลือกวิธียืนยันตัวตนและตำแหน่งธุรกิจ Local Business ให้เลือก “ส่งไปรษณียบัตรทางไปรษณีย์”
- หลังยืนยันตัวตนจะใช้เวลาประมาณ 14 วันถึงจะเริ่มใช้งานได้
2. เพิ่มข้อมูลที่สำคัญลงใน GMB
หลังจากยืนยันตัวตนแล้ว ให้เข้าไปแก้ไข และใส่ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจดังนี้
- Business name ควรตั้งชื่อธุรกิจให้จดจำง่าย และมี Keywords ที่ต้องการ อย่างชื่อ Local Business ในไทย เช่น “เจ๊แมว ข้าวมันไก่ สามย่าน”
- เลือก Categories หมวดหมู่ธุรกิจของคุณ อันนี้แนะนำให้เลือกแบบที่ตรงที่สุด หากไม่มีให้เลือกอันที่ใกล้เคียงที่สุด
- Service Area ใส่พื้นที่ให้บริการของคุณ (สามารถใส่ได้สูงสุด 20 ที่)
- ใส่เวลาทำการ เช่น เวลาเปิด-ปิด วันหยุด
- ใส่รายละเอียดสำหรับ Services เช่น ธุรกิจ Local Business ของคุณมีบริการอะไรบ้าง
- ใส่รายละเอียด Products หรือสินค้าของคุณว่าคืออะไร ตรงนี้สามารถใส่ Keywords ที่ต้องการลงไปได้
วิธี Local Landing Page เพื่อเพิ่มยอดขาย ลูกค้าค้นหาง่าย ค้าขายปัง
หลักสำคัญก่อนการทำ Local SEO สำหรับ Local Business คือมักจะทำเพื่อเพิ่มจำนวน Traffic Organic ให้เว็บไซต์ของธุรกิจ แต่ยอดขายนั้นจะดีหรือไม่ดี ก็ขึ้นอยู่กับ หน้า Landing Page ด้วย
เพราะหน้า Landing Page นั้นเปรียบเหมือนหน้าร้านที่ต้องทำอย่างใส่ใจ ให้ดูดี น่าสนใจ แต่หาก Landing Page ของคุณไม่น่าสนใจมากพอ หรือ ไม่ดึงดูดมากพอที่จะทำให้เกิด Conversion ได้ การทำ Local SEO เพื่อกระตุ้นยอดขายก็อาจจะเสียเปล่านั้นเอง
ดังนั้นหากต้องการทำการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายของ Local Business คือคุณควรรู้เคล็ดลับที่จะทำให้สินค้าของคุณขายที่ไหนและมีความสอดคล้องกับแผนการทำ Local SEO ให้ไปในทิศทางเดียวกัน ดังต่อไปนี้
1. ระบุชื่อสินค้าให้ชัดเจน
สิ่งที่บนหน้า Landing Page ต้องมีคือ ควรใส่ชื่อสินค้า ชื่อแบรนด์ ธุรกิจท้องถิ่นที่น่าสนใจ ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าให้ครบ ทางที่ดีเมื่อเข้าไปในหน้านั้นแล้วควรทราบทันทีว่านี่คือสินค้าเกี่ยวกับอะไร เช่น “ABC (ชื่อแบรนด์) ของเล่นพัฒนาเด็กเล็ก”
2. ใส่ที่อยู่/ข้อมูลติดต่อ
บนหน้า Landing Page ธุรกิจท้องถิ่น มีอะไรบ้าง แนะนำว่าควรมีข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ (ถ้ามี) แพลตฟอร์มที่ติดต่ออื่น ๆ เช่น เพจ Facebook, IG, Tiktiok (ถ้ามี) เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเชื่อในการมีตัวตนจริงของธุรกิจ Local Business ได้
3. อย่าลืมแนบแผนที่ (Google Maps)
การใช้แผนที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจว่าธุรกิจ Local Business ในไทยของคุณอยู่ที่ไหน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถขับรถตามไปใช้บริการได้ง่าย และนอกจากนี้หากธุรกิจของคุณมีบริการดี เป็นที่นิยมก็ช่วยให้ลูกค้าที่เคยใช้บริการรีวิวได้ ช่วยเพิ่มการตัดสินใจให้ผู้ใช้คนใหม่ได้ดี
4. อย่าลืมปุ่ม Call To Action (CTA)
CTA (Call-to-Action) คือ ปุ่มหรือข้อความที่ถูกออกแบบมาเพื่อเรียกให้ผู้ใช้งานดำเนินการบางอย่าง เช่น การกรอกฟอร์มให้ติดต่อกลับ, การจองสินค้า, สั่งซื้อสินค้า หรือปุ่มที่ช่วยพาไปยังห้องสนทนากับพนักงานโดยตรง โดยมักจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการกระตุ้นให้ผู้ใช้งานดำเนินการตามที่เราต้องการ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้สามารถเร่งให้เกิด Conversion ได้และช่วยให้คุณสามารถปิดการขาย Local Business ได้อย่างรวดเร็ว
>>ไม่อยากพลาดการติดอันดับ 1 บนหน้า Google ต้องรู้จักข้อมูลเกี่ยวกับการทำ SEO ที่นี่<<